หลังจากที่กระแสแอปพลิเคชัน TikTok ได้สร้างความแรงจนได้รับความนิยมทั่วโลก เมื่อปี 2020 และแรงเรื่อยมาจนถึงปี 2022 ทำเอาพี่ใหญ่เจ้าพ่อโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook ถึงกลับนั่งไม่ติดเก้าอี้เลยทีเดียว พี่มาร์ค ซัลเคอร์เบิร์คของเราจำต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่เช่นนั้น TikTok จะกลายเป็นแพลตฟอร์มที่โค่นบันลังก์ Facebook ได้ในอนาคต ทำให้วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2022 ที่ผ่านมา พี่มาร์คเลยเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่มีฟังก์ชั่นการทำงานคล้าย TikTok มันซะเลย ฟีเจอร์นั้นชื่อว่า Reel ที่จะมาขับเคี้ยวกับแพลตฟอร์ม TikTok นั้นเอง แล้วคุณเคยสงสัยไหม ว่า Reels ที่ออกมาใหม่มามีความพิเศษยังไง และแตกต่างกันอย่างไร ถ้าคุณสงสัยเราจะพาคุณไปไขข้อข้องใจกัน
Facebook Reels คืออะไร ไปไขข้อข้องใจกัน
Facebook Reels คือ ฟีเจอร์คลิปวิดีโอสั้น ๆ ของ Facebook ถูกสร้างขึ้นมาโดยเน้นความสนุกสนาน และสร้างรายได้ให้กับครีเอทเตอร์เป็นหลัก โดยลูกเล่นในฟีเจอร์จะมีเพลง, เสียงประกอบ, เอฟเฟกต์ AR, ข้อความโอเวอร์เลย์ นอกจากนี้คลิป Reel ยังสามารถถูกแชร์ไปยัง News Feed ของผู้ที่เข้ามาติดตามเพจ Facebook ของคุณได้อีกด้วย ซึ่งถ้าผู้ที่ติดตามชื่นชอบคลิปของคุณเขาก็สามารถส่งดาวมาเพื่อให้กำลังใจสำหรับเป็นช่องทางรายได้ทางตรงให้คุณได้อีกด้วย
มารู้จักกับ 4 จุดเด่นของ Facebook Reels ที่คุณต้องรับรู้เชียวแหละ ถ้าไม่อยากตกกระแสแบบ Real Time
Facebook Reels ถือกำเนิดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมอบความบันเทิงให้กับผู้ใช้งานเป็นหลัก และวัตถุประสงค์ทางอ้อม คือ ถือกำเนิดขึ้นเพื่อสกัดแข้งสกัดขาการเติบโตของ TikTok โดยเฉพาะ เปรียบเสมือนกับการที่บริษัทเล็ก ๆ ผลิตสินค้าบางชนิดแล้วออกมาได้รับความนิยมจากผู้บริโภคส่วนใหญ่ ส่งผลให้บริษัทใหญ่ก็ต้องผลิตสินค้าแบบเดียวกับบริษัทเล็กออกมาขายเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดจากผู้บริโภคเช่นกัน ซึ่ง Facebook ก็ใช้คอนเซ็ปต์นี้ในการสร้างฟีเจอร์วิดีโอสั้น โดยจุดเด่นของฟีเจอร์มีดังต่อไปนี้
- คุณในฐานะที่เป็นครีเอทเตอร์สามารถสร้างสรรค์วิดีโอคอนเทนต์ผ่านเอฟเฟกต์ เสียงประกอบ, เอฟเฟกต์ AR, ข้อความโอเวอร์เลย์ เป็นต้น ซึ่งเอฟเฟคของวิดีโอ Reel ค่อนข้างใช้งานง่าย และให้ความยาวการตัดต่อคลิปสูงสุดถึง 90 วินาที หรือประมาณ 1 นาที 30 วินาที เหมาะกับครีเอทเตอร์มือใหม่ หรือ ผู้ที่สนใจอยากลองสร้างคอนเทนต์ง่าย ๆ เพื่อเริ่มต้นเผยแพร่สู่สาธารณะ นอกจากนี้คลิปวิดีโอสั้นของ Facebook ยังคงมีปุ่ม ไลค์ แชร์ เม้นท์ นอกจากจะสร้างความเอนเตอร์เทนแล้ว ยังเน้นการสร้างปฎิสัมพันธ์ระหว่างผู้คนอีกด้วย
- Remix Reel สร้างคนเดียวไปไม่ไหว ขอดึงคนอื่นมาช่วย Collab (ร่วมมือ) ดีกว่า Facebook Real นอกจากจะเปิดโอกาสให้คุณสามารถสร้างคอนเทนต์ในฐานะครีเอทเตอร์แล้ว มันยังเปิดโอกาสให้คุณสามารถร่วมสร้างคอนเทนต์ร่วมกับครีเอทเตอร์คนอื่น ๆ ได้อีกด้วย เพื่อดันให้คอนเทนต์คุณไปได้ไกล และไปได้ปังยิ่งกว่าเดิม
- ผู้เยี่ยมชมคลิป สามารถส่งดาวเพื่อเป็นรายได้สำหรับให้กำลังใจครีเอทเตอร์ได้ ซึ่งจุดเด่นด้านรายได้นี่แหละมันเป็นตัวสร้างแรงผลักดันให้ครีเอทเตอร์อยากจะสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ ออกมาสู่ผู้ชมเสมอ
- เจ้าของธุรกิจสามารถอิงแอดโฆษณาร้านค้าไปที่ Facebook Reel เพื่อให้ผู้ใช้บริการฟีเจอร์สามารถเข้าถึงสินค้าได้ และ ถ้าผู้ใช้บริการสนใจพวกเขาสามารถกดเลือกซื้อสินค้าได้เลย
จากภาพเป็นตัวอย่างการยิงโฆษณาใน Facebook Reel
ที่มา : tech-hangout
มารู้จักกับ 2 รูปแบบคอนเทนต์ที่ไม่สร้างสรรค์ จน Facebook Reels ไม่อยากแบ่งปันรายได้กันเถอะ
Facebook Reels ให้ความสำคัญกับความบันเทิงก็จริง แค่ความบันเทิงนั้นควรเป็นสิ่งที่สร้างสรรค์ด้วย เพื่อให้ชุมชน Facebook กลายเป็นพื้นที่สำหรับให้ผู้ใช้งานได้เข้ามาเสพสิ่งดี ๆ มีคุณภาพ และสร้างประสบการณ์ที่มีประโยชน์ร่วมกันอีกด้วย ต่อไปนี้เราจะพาคุณทุกคนไปรู้จักกับคอนเทนต์ที่ไม่สร้างสรรค์จน Facebook ไม่อยากแบ่งปันรายได้กันเถอะ
- คอนเทนต์ที่เป็นภัยกับสังคม เช่น คอนเทนต์ที่มีเนื้อหาที่เป็นประเด็นก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคม, คอนเทนต์ที่มีการใช้สารเสพติด, คอนเทนต์ที่นำเสนอความรุนแรง,คอนเทนต์ที่นำเสนอเชิงความสัมพันธ์ทางเพศ, คอนเทนต์ที่บูลลี่ซึ่งกันและกัน เป็นต้น ซึ่งคอนเทนต์เหล่านั้นนอกจากจะไม่สร้างสรรค์แล้ว ยังทำให้เกิด Toxic แก่ผู้ใช้งาน Facebook อีกด้วย
- คอนเทนต์ที่มีเนื้อหาที่ไม่น่าชม ขาดความสนุก เช่น คลิปวิดีโอไม่มีภาพเคลื่อนไหว, คอนเทนต์ที่นำเสนอแต่ภาพนิ่งเป็นหลัก, คลิปวิดีโอที่มีแต่เนื้อหาซ้ำ ๆ เป็นต้น
ความแตกต่างของ Facebook Reels VS TikTok ใครจะอยู่ใครจะมาดูกัน
ฟีเจอร์ Facebook Real ดู ๆ แล้วมันก็คล้ายกับแพลตฟอร์ม Tiktok เหมือนกันนะ แล้วอย่างงี้เราจะมีวิธีแยกความแตกต่างยังไงไม่ให้ตกใจกันล่ะเนี่ย เอาอย่างงี้แล้วกัน งั้นเรามาดูจุดเด่นของ Tiktok กันก่อนดีกว่า ว่าจุดเด่นมันมีอะไรบ้าง มารู้จักกับ 4 จุดเด่นของแพลตฟอร์ม Tiktok กันเถอะ
- คอนเทนต์วิดีโอใน TikTok มีความยาวตั้งแต่ 15 – 180 วินาที แต่ความยาวของคอนเทนต์ที่ชาว TikTok ส่วนใหญ่ชอบใจ คือ คอนเทนต์ที่มีความยาว 15 วินาที เป็นหลัก เพราะชาว TikTok ไม่ชอบดูอะไรนาน ๆ ถ้าคอนเทนต์ของคุณสามารถมัดใจชาว TikTok ได้ภายใน 3 วินาที ก็มีโอกาสสูงที่จะทำให้ชาว TikTok ไม่ปัดคอนเทนต์คุณทิ้งเพื่อไปดูคอนเทนต์อื่น
- TikTok มีเอฟเฟกต์สุดเจ๋ง ที่จะมาเป็นลูกเล่นทำให้คอนเทนต์คุณไม่น่าเบื่อ สิ่งนี้แหละที่เป็นจุดแข็งที่ทำให้ TikTok กลายเป็นผู้มาก่อนกาล นำเทรนด์โซเชียลมีเดียทั้งหลาย เพราะเอฟเฟคของ TikTok มีแต่ตัวเด็ด ๆ ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น เอฟเฟกต์ AR, เอฟเฟกต์ใส่เพลงประกอบ, เอฟเฟกต์ใส่เสียงประกอบ, เอฟเฟกต์ใส่ฟิลเตอร์หน้าสวย และ การดูเอทคลิปของคุณร่วมกับคลิปที่เป็นไวรัล เป็นต้น ซึ่ง TikTok ก็เป็นแพลตฟอร์มที่ขยันอัพเดตเอฟเฟกต์ใหม่ ๆ มาให้ผู้ใช้งานได้ร่วมสนุกตลอดเวลา
- TikTok มี AI สุดฉลาด ที่จะทำให้คุณไม่พลาดเนื้อหาคอนเทนต์ที่ชอบ เพียงแค่คุณลองพิมพ์ค้นหาสิ่งที่น่าสนใจในช่องการค้นหาของ TikTok จากนั้นคุณจะพบคอนเทนต์เนื้อหาเดียวกัน หรือ เนื้อหาใกล้เคียงกัน ปรากฏอยู่มากมายในฟีด TikTok ของคุณ ซึ่งความฉลาดของ AI ตรงนี้แหละ ที่ทำให้ผู้คนเสพติดการไถ TikTok กันอย่างงอมแงม
- TikTok เป็นแหล่งกำเนิด Influencer หน้าใหม่ รวมถึงเป็นช่องทางในการโปรโมทผลงาน และ สร้างกระแสให้กับดารา คนดัง อีกมากมาย หรือที่เรามักรู้จักกันในนามของการเป็นดาว TikTok นั่นเอง ซึ่งการเป็นดาว TikTok ใคร ๆ ก็เป็นได้ ถ้ารู้จักการครีเอทคอนเทนต์, การเล่นกับประเด็นกระแสสังคม และ การรู้จักที่เป็นผู้นำเทรนด์เพื่อดึงกระแสสังคมให้สนใจคอนเทนต์ของเรา เพียงแค่นี้คุณก็จะกลายเป็นดาวดวงใหม่ใน TikTok แล้ว
หลังจากที่เราได้ไปทำความรู้จักกับจุดเด่นของ TikTok แล้ว ต่อไปนี้เราจะไปเปรียบเทียบแบบ ช็อตต่อช็อตกันว่า Facebook Reels มันต่างกับ TikTok ยังไงบ้าง
และนี่ก็เป็นความแตกต่างของทั้งสองแพลตฟอร์ม ที่เราได้จำแนกมาให้คุณทำความเข้าใจแบบง่าย ๆ สำหรับเรา เรามองว่าทุกแพลตฟอร์มต่างก็มีจุดเด่นกันคนละแบบ ขึ้นอยู่ที่ความชอบ หรืออรรถประโยชน์ของผู้ใช้งานแต่ละคนมากกว่า อย่างการเสพ Facebook ผู้คนอาจไม่ได้เสพแค่ความบันเทิงอย่างเดียว เพราะอุดมการณ์ของ Facebook จะเน้นความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนหรือคนรู้จักเป็นหลัก
เมื่อผู้คนเสพความบันเทิงจาก Facebook เสร็จแล้ว พวกเขาก็อาจจะเปลี่ยนมาชมโพสข้อความ หรือ รูปภาพ ของเพื่อน หรือคนรู้จักใน Facebook ร่วมกันไปอีกด้วย ส่วน TikTok อุดมการณ์ของแพลตฟอร์มจะเน้นความบันเทิงเป็นหลัก เมื่อคุณใช้งาน TikTok คุณจะรู้สึกเหมือนตัวเองได้หลุดออกไปอยู่อีกโลกหนึ่ง ซึ่งเป็นโลกที่มีแต่ความสุข ความสนุก และ มีแต่สิ่งที่คุณสนใจเฉพาะ
สรุป Facebook Reels กับ TikTok ต่างกันยังไง
เป็นยังอย่างไรกันบ้างกับเนื้อหาความแตกต่างระหว่าง Facebook Reels และ TikTok ทีนี้หลายคนพอจะแยกออกบ้างหรือยัง ถ้าคุณยังแยกไม่ออกเราขอมาสรุปอีกรอบให้คุณฟังอ่านดังนี้ Facebook Reel คือฟีเจอร์วิดีโอสั้นของ Facebook ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเน้นความสนุกสนาน และเพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดจาก TikTok เป็นหลัก
ซึ่งความแตกต่างระหว่างทั้งสองแพลตฟอร์ม ถ้าเทียบกับแบบช็อตต่อช็อต คือ TikTok มีความยาวของคลิปวิดีโอที่มากกว่า, มีเอคเฟคและลูกเล่นที่เจ๋งกว่า, สร้างกระแสได้ง่ายกว่า, ส่งรายได้โฆษณาให้กับครีเอทเตอร์ถึง 50 %, และเน้นการสร้าง Influencer มาประดับวงการ ในขณะที่ Facebook จะมีความยาวของคลิปวิดีโอที่สั้นกว่า, มีเอฟเฟกต์ที่ง่ายกว่า, ค่อนข้างจะสร้างกระแสได้ยากนิดหนึ่ง เพราะเหมาะกับเพจที่มีฐานผู้ติดตามมาพอสมควรแล้ว ส่วนเรื่องรายได้ผู้ชมสามารถส่งดาวเพื่อสร้างรายได้ให้กับครีเอทเตอร์ได้โดยตรง
ถ้าสรุปให้ง่ายกว่านั้น TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่ทำให้คนธรรมดาสามารถกลายเป็นคนดังได้ ส่วน Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่ให้คนมีชื่อเสียงประมาณหนึ่งสามารถสร้างคอนเทนต์เพื่อรับรายได้ทางตรงจากกลุ่มคนที่มารับชม ก็จบกันไปแล้วนะคะสำหรับสรุปความแตกต่างระหว่างของทั้งสองแพลตฟอร์มระหว่าง Facebook และ TikTok เราหวังว่าคุณจะเข้าใจมันมากยิ่งขึ้นนะ