ใครต่างก็รู้ดีว่าการทำ SEO คือการทำเว็บไซต์ให้ถูกต้องตามหลักของ Search Engine เพื่อให้ได้อันดับบนผลการค้นหา (SERP) และระบบ Search Engine ที่มีความนิยมมากอย่าง Google ต่างก็มีคนให้ความสนใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการทำเว็บไซต์ที่ถูกใจทาง Google แต่การทำ SEO บน Google เราต้องรู้ข้อมูลหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Content ที่มีเนื้อหาเป็นกระแสนิยม, Keyword ใดบ้างที่ถูกใช้งานกันเป็นจำนวนมาก เราจะเรียนรู้และติดตามสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร แต่รู้หรือไม่ว่ามีเครื่องมือหนึ่งของทาง Google ที่จะมาช่วยซัพพอร์ตกับการทำ SEO ของคุณได้ให้ง่าย นั้นก็คือ Google Alerts เครื่องมือจาก Google แล้วเจ้าเครื่องมือตัวนี้จะมาช่วยซัพพอร์ตกับการทำ SEO ได้อย่างไร บทความนี้เราจะพาไปหาคำตอบกัน
Google Alerts คืออะไร
Google Alerts คือเครื่องมือหนึ่งจากทาง Google ที่จะคอยแจ้งเตือนข่าวสารใหม่ ๆ ให้กับเราผ่านทางอีเมลที่สมัครใช้งาน โดยเนื้อหาที่ได้รับจะมาจากทั้งแบบเว็บไซต์, ข่าว, blog หรือวิดีโอ จากข้อมูลของ Google โดยเนื้อหาที่จะได้รับขึ้นอยู่กับการกำหนดไว้ตอนสมัครใช้งาน หรือการตั้งค่าในภายหลัง และเนื้อหาที่จะมาส่งให้เราขึ้นอยู่อย่างต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับการค้นหาล่าสุดของ Google Search โดยอ้างอิงจาก Keyword ที่เราได้ใช้งานล่าสุด
แน่นอนว่าสิ่งนี้เป็นเครื่องมือที่ทำให้คุณติดตามข่าวสารใหม่ ๆ ได้อย่างทันท่วงที โดยไม่ต้องไปนั่งไล่ค้นหาเอง นอกจากนี้เครื่องมือตัวนี้ยังช่วยให้คุณสามารถติดตามดูเนื้อหาที่มีแนวโน้มจะมาแรง หรือการส่องดูว่าเว็บไซต์คู่แข่งว่าเป็นอย่างไรบ้าง ด้วยข้อมูลเหล่านี้จะทำให้คุณนำไปประยุกต์ใช้ในการสร้างเนื้อหาให้กับเว็บไซต์ที่ทำ SEO ได้เป็นอย่างดี ที่จะช่วยให้คุณวางแผนต่อไปได้
ข้อจำกัดของ Google Alerts ในการใช้งาน
ถึงแม้ว่า Google Alerts จะเป็นเครื่องมือที่คอยช่วยแจ้งเตือนข้อมูล ข่าวสารใหม่ ๆ ให้เราได้อย่างทันใจ แต่ก็มีข้อจำกัดที่เครื่องมือตัวนี้เองก็ทำไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น การแสดงผลลัพธ์จากโซเชียลมีเดีย หรือการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก และรายงานการใช้งาน
Google Alerts กับการนำมาช่วยทำ SEO
เรารู้แล้วว่า Google Alerts เป็นเครื่องมือในการติดตามข่าวสารได้เป็นอย่างดี เพราะข้อมูลข่าวสารที่มานำเสนอจะมาจากฐานข้อมูลของ Google ด้วยข้อมูลที่แน่นอนเหล่านี้ จะทำให้คุณไปประยุกต์ใช้กับการทำ SEO ได้อย่างไรกัน
1. ช่วยติดตามเว็บไซต์คู่แข่งได้
เจ้าเครื่องมือนี้เป็นเสมือนสายลับตัวน้อยได้เป็นอย่างดี เพราะมันสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารจากเว็บไซต์คู่แข่งได้ง่าย ด้วยการแค่ระบุชื่อแบรนด์หรือเว็บไซต์ของคู่แข่งลงไป ก็จะทำให้เราสามารถติดตามข้อมูลจากอีกฝ่ายได้แบบเรียลไทม์ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะโพสเนื้อหา หรือลง Content อะไร เราจะรู้ได้ในทันที และเมื่อรู้ เราสามารถนำมาปรับใช้ในการวางแผนทำเนื้อหาบนเว็บไซต์ของเราได้อย่างชาญฉลาด
……………………………………………………..
2. ค้นหาแรงบันดาลใจสำหรับการทำ Content
โลกแห่งการทำ SEO สิ่งสำคัญสู่ชัยชนะคือ Content ดังคำกล่าวที่บอกไว้ว่า “Content is King” (เรียนรู้dkim) แต่บ่อยครั้งที่เราผู้คิด Content ต้องหัวตัน หรือคิดไม่ออกว่าควรจะต้องทำหัวข้อใดดี เจ้าเครื่องมือนี้ก็สามารถมาช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการคิดหัวข้อ Content ได้เช่นกัน เพราะเครื่องมือจะช่วยให้คุณสามารถติดตามหมวดหมู่หัวข้อ Content ที่คุณสนใจ แล้วมีรู้ว่าเนื้อหาใดบ้างที่ถูกทำไปแล้ว คุณจะสามารถคิดต่อได้ว่าจะทำ Content แบบใดต่อ ไม่ว่าจะเป็นการต่อยอดจากหัวข้อ Content เดิม หรือการทำ Content เพื่อโต้ตอบ แต่ต้องพึ่งระวังให้ดีในการใช้ข้อมูลและเนื้อหาที่นำมาใช้ ไม่ให้ละเมิดลิขสิทธิ์กัน
……………………………………………………..
3. รับรู้แนวโน้ม Content ที่จะมาใหม่และได้รับความนิยม
ยิ่งรับรู้แนวโน้มของ Content ที่จะมาใหม่ได้เร็วเท่าไรยิ่งดี เพราะเว็บไซต์ที่มีการทำเนื้อหาแปลกใหม่ และตอบสนองผู้ใช้งาน (User) ได้เร็วเป็นอย่างดี จะยิ่งช่วยเพิ่มยอด Traffic รวมไปถึงการเพิ่มอันดับให้เว็บไซต์ได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้งาน ให้กลับมาใช้งานเว็บไซต์ของเราอีกในภายหลัง
……………………………………………………..
4. เพิ่มโอกาสในการหา Guest Post ใหม่
Guest Post คือ การไปขอให้เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกัน โดยเว็บไซต์นั้นต้องมีความน่าเชื่อถือ และมียอด Traffic มากพอสมควร มาเขียนเนื้อหาที่เกี่ยวกับเว็บไซต์ของเรา เป็นเหมือนดั่งการโปรโมทและโฆษณาเว็บไซต์เรา ให้คนได้รู้จักมากขึ้น ซึ่งเจ้าเครื่องมือตัวนี้จะช่วยหา Guest Post ให้เราได้ด้วยเช่นกัน
……………………………………………………..
5. ช่วยหาคนมาทำ SEO ได้
บางครั้งเว็บไซต์ที่ทำ SEO มักจะมีคนมาทำงานไม่เพียงพอ แต่เครื่องมือนี้ก็จะช่วยให้คุณสามารถหาคนมาทำได้ โดยการค้นหาตำแหน่งที่ต้องการ และเมื่อมีคนมาโพสต์ Resume ในหน้าเว็บไซต์หางาน มันจะคอยแจ้งเตือนให้เราได้รู้ และสามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ทันที
……………………………………………………..
6. ช่วยค้นหาช่อง Comment ของเว็บไซต์
การช่วยเพิ่มยอดเข้าถึงเว็บไซต์ ไม่ได้มีแค่การรอให้มีผู้เข้าชมเว็บไซต์เราแต่เพียงอย่างเดียว เราสามารถเพิ่มยอดเข้าเว็บไซต์ได้ด้วย การหาเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้อง และมีช่อง Comment ในการแสดงความคิดเห็นของผู้ใช้งาน เพื่อฝาก Link มายังเว็บไซต์ของเราได้เช่นกัน โดยเครื่องมือตัวนี้จะช่วยค้นหา และแจ้งเตือนเมื่อมีเว็บไซต์ที่เนื้อหาเกี่ยวข้องกันและแสดงความคิดเห็นได้
……………………………………………………..
7. ป้องกัน Content ที่ซ้ำกัน
บ่อยครั้งที่คนทำ Content จะกังวลกับงานของตัวเอง ว่าจะมีเนื้อหาที่ทำจะไปซ้ำกับเว็บไซต์อื่นหรือไม่ ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว การใช้เครื่องมือตัวนี้แล้วระบุ Keyword ของ Content ที่เรา เพื่อให้ได้รับการแจ้งเตือนเมื่อมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ Keyword ที่เราระบุไว้ เพื่อตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว ว่าเนื้อหาของเขาและเราซ้ำกันหรือไม่
……………………………………………………..
8. ช่วยสร้าง Backlink ได้
เมื่อใดก็ตามที่มีคนกล่าวถึงเนื้อหา ข้อมูลอะไรที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ของเราบนเว็บอื่น ๆ ไม่ว่าจะตาม Block สาธารณะต่าง ๆ คุณสามารถสร้าง Backlink เพื่อนำทางมายังเว็บไซต์ของคุณได้ ซึ่งการใช้เครื่องมือเช่นนี้จะช่วยให้คุณพบโอกาสเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว และทันที แต่พึ่งระวังให้ดีด้วยเช่นกัน ว่าเว็บไซต์ที่กล่าวถึงเรามีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์เราหรือไม่ หากมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกัน คุณก็จะได้ Backlink ที่มีคุณภาพไปใช้งาน
บทสรุป Google Alerts เกี่ยวข้องกับการทำ SEO อย่างไร
สุดท้ายแล้ว Google Alerts คือเครื่องมือจากทาง Google ที่คอยแจ้งข่าวสารข้อมูลใหม่ ๆ ให้กับผู้ใช้งาน โดยอ้างอิง Keyword ที่ระบุไว้ในเครื่องมือหรือจากที่ค้นหาทาง Google Search ล่าสุด ในส่วนของการนำมาใช้กับการทำ SEO เป็นเพียงแค่การประยุกต์ใช้ข้อมูลที่ได้จากเครื่องมือมาต่อยอดในการทำ SEO ให้ง่ายขึ้น
แต่อย่าหลงคิดว่าการใช้เครื่องมือจากทาง Google แล้วจะทำให้อันดับเว็บไซต์ของคุณบนผลการค้นหา (SERP) ของ Google Search ดีขึ้นได้ เพราะสิ่งสำคัญของการทำ SEO มีมากยิ่งกว่านั้น เครื่องมือตัวนี้มาเพียงแค่ช่วยให้การทำส่วนย่อย ๆ ของการทำ SEO ได้ง่ายขึ้นแต่เพียงเท่านั้น