เราสามารถใช้ AI เสริมการทำ SEO เพื่อให้ได้งานเร็วและฉลาดขึ้นได้จริงหรือ?

ในยุคปัจจุบัน ทุกคนสามารถใช้เทคโนโลยีอย่าง AI ได้ทั่วโลก และปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีธุรกิจไม่น้อยที่นำเทคโนโลยีตัวนี้เข้าไปช่วยพัฒนาและเสริมประสิทธิภาพของระบบธุรกิจให้ดีขึ้น รวมถึงการทำ SEO ก็เช่นกัน ก็ได้นำเข้ามามีส่วนเสริมในการทำ รวมไปถึงการใช้ในการสร้าง Content เพื่อเพิ่มผลผลิตและพัฒนาขั้นตอนในการประมวลผลของระบบการทำงานด้วย สำหรับการทำ SEO แล้ว มันคือจุดเปลี่ยนของเทคโนโลยีที่บริษัทใหญ่ ๆ หลายแห่ง เอาไปใช้มากขึ้นภายในธุรกิจที่มีขนาดเล็กจนไปถึงขนาดกลาง แต่มันจะใช่สำหรับธุรกิจของคุณไหม และนี้คือข้อเท็จจริงที่น่าประหลาดใจเกี่ยวกับเทคโนโลยี AI ในการใช้เสริม SEO ได้จริงหรือไม่

การใช้ AI ในการทำ SEO คืออะไร?

เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า AI หรือ Artificial Intelligence เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกสร้างมาเพื่อทำงานและแก้ไขปัญหาต่าง ๆ อย่างชาญฉลาดให้เหมือนหรือเหนือกว่าความคิดของมนุษย์ ในสายธุรกิจและอุตสาหกรรมหลายประเภทจะใช้เทคโนโลยีตัวนี้ในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปตามความเหมาะสมกับธุรกิจนั้น เช่น ใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ หรือ ใช้ในการสร้าง Application ต่าง ๆ
เมื่อถูกนำมาใช้กับธุรกิจแล้ว นั้นก็แสดงว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ตัวนี้ต้องมีข้อดีอะไรอยู่แน่นอน สำหรับการทำ SEO ก็เช่นเดียวกัน เรามาลองดูข้อดีกันเลยดีกว่า

1. AI ให้ความสะดวกและรวดเร็วในการจัดการเว็บไซต์

ยกตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์ม WordLift เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์เข้ามาช่วยเจ้าของเว็บไซต์จัดการข้อมูลเชิงโครงสร้าง การเชื่อมโยงภายใน และปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์ ได้อย่างอัตโนมัติ คุณ อันเดรอา โวลปินี ผู้บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง WordLift แสดงความคิดว่า

“WordLift automatically ingests the latest version of the schema vocabulary to support all possible entity types.We can reuse this data to build internal links, render context cards on web pages, and recommend similar content.WordLift enables many SEO workflows as the knowledge graph of the website gets built.” – Andrea Volpini, CEO Of WordLift

จากเว็บไซต์ searchenginejournal ซึ่งแปลความหมายได้ว่า “ WolrdLift จะนำเวอร์ชั่นล่าสุดของโครงสร้างคำศัพท์เข้าโดยอัตโนมัติเพื่อรองรับเอนติตี้ทั้งหมดที่สามารถทำได้ และสามารถใช้ข้อมูลนี้สร้างการเชื่อมต่อภายใน แสดงการ์ดบนหน้าเว็บเพจและแนะนำบทความที่คล้ายกันมาให้ รวมทั้งเปิดใช้งานกับระบบการทำขั้นตอน SEO จำนวนมาก เมื่อแผนกราฟข้อมูลของเว็บไซต์ถูกสร้างขึ้น ”

2. AI สามารถวัดระดับประเภทข้อมูลต่าง ๆ

สำหรับการทำ SEO ที่มีระบบภายในที่ซับซ้อนนั้น AI สามารถประยุกต์ใช้ได้ในกิจกรรมที่หลากหลายที่จะลดการมีส่วนร่วมในงานที่ซ้ำซากและช่วยเพิ่มผลผลิต และยังเป็นตัวช่วยในการจำแนกประเภทและประมวลผลต่าง ๆ ในระบบได้อย่างดี เช่น การวางแผนสร้าง Content, การวิเคราะห์ Content, การวิเคราะห์ข้อมูล, การสร้างกราฟความรู้ หรือการเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมโยงภายใน เป็นต้น เพื่อสามารถเก็บข้อมูลและนำไปปรับปรุงแก้ไขพัฒนาต่อให้ดีขึ้น

3. AI ใช้ในการสร้าง และ เพิ่มประสิทธิภาพ Content

ในยุคสมัยนี้เทคโนโลยีต่าง ๆ ได้พัฒนาไปไกลมาก รวมถึงเจ้าตัว AI นี้ด้วยที่นับวันจะมีความสามารถมากขึ้นเรื่อย ๆ และ มันสามารถเข้าไปเป็นเครื่องมือช่วยเหลือพัฒนาธุรกิจต่าง ๆ รวมถึง ธุรกิจที่ทำ SEO ด้วย ที่เข้ามามีส่วนช่วยในเรื่องของการสร้าง Content และก็สามารถทำได้ดีเลยทีเดียว สิ่งที่นักเขียนคนหนึ่งรู้สึกเกี่ยวกับหัวข้อเรื่องอาจจะแตกต่างจากสิ่งที่ผู้ใช้คิด เครื่องมือการค้นหาอาจระบุคำค้นหาที่ผู้ใช้ต้องการไม่ตรงกับผู้เขียนได้ จึงทำให้ Content อาจมีประสิทธิภาพต่ำในการค้นหา

AI จึงมีเครื่องมือในการช่วยพัฒนา Content ที่มีความเกี่ยวข้องกันอย่างรัดกุมยิ่งขึ้นระหว่าง บทความ และ สิ่งที่ผู้ใช้กำลังค้นหา โดยให้รายละเอียดวัตถุประสงค์ของสิ่งที่บทความนั้นต้องการจะให้ นอกจากนี้ปัญญาประดิษฐ์ยังช่วยค้นหา Keyword ให้นักเขียนโดยแนะนำประสิทธิภาพ Workflow ของเนื้อหา โดยเปิดกระบวนการทั้งหมดเพื่อรวบรวมผลลัพธ์ ที่จะลดเวลาในการค้นหาและเผยแพร่ไปยังโลกออนไลน์ สรุปให้เข้าใจได้ง่ายเลยคือคุณค่าหลักของ Artificial Intelligence ในการทำ SEO คือ สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในขณะเดียวกันก็เพิ่มความเชี่ยวชาญ ความน่าเชื่อถือและความเกี่ยวข้องของเนื้อหา Content ให้อีกด้วย

ข้อเสียและการพิจารณาด้านจริยธรรม ในการใช้ AI

ในเมื่อเหรียญยังมีสองด้าน การใช้ เทคโนโลยีก็มีเช่นกัน เราได้กล่าวถึงข้อดีของการใช้ AI กับการทำ SEO ไปแล้ว ตอนนี้เราจะมาพูดถึงข้อเสียกันว่ามีอะไรที่เราต้องคำนึงถึงบ้าง เพราะเราจะได้ช่วยเหลือปัญญาประดิษฐ์สรรค์สร้างผลงานเขียนของเราให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

1. เนื้อหาที่ถูกเขียนขึ้นมาด้วย AI จะอาจถูกลบได้

เนื้อหาที่มาจาก AI สามารถส่งผลไปในทางลบได้ เนื่องจาก Google มีกฎไม่ให้สร้างเนื้อหาที่สร้างโดยระบบอัตโนมัติ โดยนโยบายสแปมของ Google เตือนว่า เจ้าหน้าที่จะกระทำการต่อการเผยแพร่เนื้อหาที่ถูกสร้างโดยระบบอัตโนมัติ อาจจะถูกนำออกจากผลลัพธ์ในการค้นหา
โดยนโยบายของ Google อธิบายว่า สิทธิ์ในการปรากฏบนผลการค้นหาเว็บ Google (หน้าเว็บ รูปภาพ วิดีโอ เนื้อหาข่าวหรือเนื้อหาอื่น ๆ ที่ Google พบเจอในเว็บไซต์) เนื้อหาจะต้องไม่ละเมิดต่อนโยบายโดยรวมต่อการค้นหา Google หรือนโยบายการสแปม อย่างไรก็ตามนักเขียน Content ควรระวังการใช้เนื้อหาที่ได้มาจาก AI และตรวจสอบตามนโยบายให้ดีก่อนเผยแพร่เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำ SEO

2. เนื้อหาที่ถูกสร้างขึ้นจาก AI สามารถถูกจับได้

Google และเครื่องมือการค้นหาอื่น ๆ สามารถจับเนื้อหาที่ถูกสร้างขึ้นโดย AI ทั้งหมดได้ เพราะเนื้อหาที่ถูกสร้างขึ้นประกอบด้วยรูปแบบคำที่ไม่ซ้ำกันทั้งเนื้อหาที่มนุษย์สร้างและระบบคอมพิวเตอร์สร้าง การวิเคราะห์เชิงสถิติจะเผยให้เห็นว่าเนื้อหาอันไหนสร้างโดยระบบอัตโนมัติ ฉะนั้นนักเขียนต้องระวังไม่ให้เนื้อหาซ้ำกับ AI นั้นเอง

3. AI ไม่สามารถทำ SEO ได้เพียงลำพัง

แม้ว่าเทคโนโลยีจะเป็นเครื่องมือที่น่าทึ่งและน่าสนใจในปัจจุบัน จนทำให้เกิดปัญหาเทคโนโลยีมาลดทอนการใช้แรงงานของมนุษย์ลง แต่ถึงอย่างไรมนุษย์ก็ยังคงจำเป็นต่อวงการการตลาด (Marketing) อยู่มาก เพราะ เทคโนโลยีไม่สามารถมาทำการตัดสินใจแทนมนุษย์ผู้ที่มีความคิดที่สร้างสรรค์และการจินตนาการที่มากและไกลกว่าได้
เนื่องจาก AI วิเคราะห์กลไกข้อมูลมาจากความจำที่เก็บรวบรวมมา ซึ่งคุณสมบัตินี้ไม่สามารถนำไปใช้กับการทำ Marketing ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการทำ SEO ก็คือหนึ่งในสายงาน Marketing ที่ต้องมีประสิทธิภาพในการสร้าง Content ที่ต้องให้ความเข้าใจต่อความรู้สึกของผู้อ่านได้อย่างลึกซึ้ง นอกจากนี้อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในการสื่อสารข้อมูลจนก่อให้เกิดสิ่งที่ร้ายแรงตามมาได้

บทสรุป AI สามารถช่วยงานด้าน SEO ได้ดีจริงหรือไม่?

การที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้ไม่ใช่เรื่องที่แย่แต่อย่างใด เพียงแต่ต้องใช้เกิดประโยชน์ เช่นเดียวกับ การนำ AI มาใช้ร่วมกับการทำ SEO เพื่อให้เกิด เนื้อหาใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงสามารถทำให้ธุรกิจของเราต่อยอดไปข้างหน้าได้อีก นักเขียน Content จึงควรใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เป็นเครื่องมือที่ช่วยทุ่นแรงในการทำงานเพื่อให้การทำงานสะดวกและราบรื่นขึ้น แต่ไม่ควรให้เทคโนโลยีนำทางเรา เพราะเทคโนโลยีคือ สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้นนั้นเอง