Ahrefs เป็นเครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์ SEO ที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในวงการการตลาดออนไลน์ ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลายและความสามารถในการวิเคราะห์ พร้อมติดตามการทำงานของเว็บไซต์ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับปรุง SEO ทั้งยังเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในการค้นหาของเว็บไซต์ของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยในบทความนี้เราจะมาแนะนำวิธีการใช้ Tools เบื้องต้นให้กับผู้ที่ต้องการเพื่อปรับปรุง SEO ของเว็บไซต์ให้อยู่หมัด
Ahrefs คืออะไร? เราไปทำความรู้จักเขาแบบง่าย ๆ กัน
Ahrefs คือ เครื่องมือที่รองรับความต้องการของนัก SEO ได้ครอบคลุมหลาย ๆ ด้าน ๆ เป็นเครื่องมือการตลาดที่ใช้วิเคราะห์ Backlink , ใช้ตรวจสอบปัญหาของเว็บไซต์, ใช้ดูเนื้อหาบทความของเว็บไซต์คู่แข่ง, อีกทั้งยังใช้รายงานผลเชิงลึกได้อย่างละเอียด ซึ่งโปรแกรมมีทั้งแบบเสียไม่เสียค่าใช้จ่ายและมีทั้งแบบเสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย
มาเรียนรู้การใช้ Ahrefs แบบไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งคุณสามารถทดลองง่ายๆได้ด้วยตัวเอง
นับเป็นเครื่องมือการตลาดที่มีประสิทธิภาพและความสามารถมากมาย แต่คุณรู้ไหม? ว่าโปรแกรม Ahrefs มีแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายให้คุณได้ทดลองใช้ด้วยนะ ซึ่งเราจะขอคัดฟีเจอร์เด่นของโปรแกรมมา 4 แบบ ที่คาดว่าจำเป็นและเหมาะสมกับการใช้งานของคุณจริง ๆ
1.คุณสามารถเช็ค Backlink ฟรีผ่านลิงก์ “คลิก“
เมื่อคุณกดลิงก์ดังกล่าวแล้ว คุณสามารถใส่โดเมนของลิงก์ที่ต้องการเช็ค Backlink ไปในช่องการค้นหาได้
เลือก Subdomains แล้วกด Check backlinks
จากภาพจะเห็นว่า Domain Rating ของเว็บไซต์ Thaitop SEO จะอยู่ที่ 49 คะแนน ซึ่ง Domain Rating ถูกวัดจากการที่เว็บไซต์อื่นมีการ Backlink หรือ อ้างอิงถึงเว็บไซต์ของเรา จากภาพเห็นว่าเว็บไซต์ของ Thaitop SEO ถูกจัดคะแนนโดเมนค่อนข้างปานกลาง ซึ่งคะแนนโดเมนถูกจัดอันดับโดย google เป็นหลัก ส่วน Backlinks 1.5 K คือยอดการกล่าวถึงบทความของคุณที่เว็บไซต์อื่นอ้างถึง และ Linking websites 684 คือการที่เว็บไซต์ของคุณมีการเชื่อมโยงกับเว็บไซต์อื่น ๆ เช่น การนำเว็บไซต์ไปโปรโมทในเว็บอื่น ที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกับเว็บไซต์ของคุณ หรือ การที่เว็บไซต์ของคุณถูกแชร์ต่อทางพื้นที่โซเชี่ยลมีเดีย เป็นต้น
ประโยชน์ของการเช็ก Backlink คือ เพื่อให้คุณสามารถตรวจสอบได้ว่า บทความของคุณมีการอ้างอิงจากเว็บไซต์อื่นมากแค่ไหน ถ้าบทความของคุณมีคะแนน Domain Rating สูง นั้นหมายความว่าบทความของคุณได้รับความน่าเชื่อถือจาก google ทั้งนี้ทั้งนั้น คะแนน Domain Rating เป็นเพียงแค่การจัดอันดับเพียงชั่วคราว ถ้าเว็บไซต์ของคุณมีการปรับปรุงเนื้อหาเพื่อความทันสมัย รวมถึงมีการทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นในอนาคต ก็มีแนวโน้มว่าเว็บไซต์ของคุณจะได้รับ Domain Rating เพิ่มจาก google ในอนาคต
2.คุณสามารถเช็คคำ Keyword ฟรีผ่านลิงก์นี้ คลิก
พิมพ์คำ Keyword ที่คุณต้องการจะค้นหาลงไปในช่องการค้นหา จากนั้นก็กด Find Keywords
- ผลลัพธ์ของการค้นหาจะปรากฏดังนี้
- อักษร KD (Keyword Difficulty) คือ ระดับความยากของคำว่าคำนั้น ว่ามีระดับการค้นหายากง่ายแค่ไหน
- Volume คือตัวเลขปริมาณการค้นหาคำในแต่ละเดือน
- Update คือ วันเวลาสุดท้ายที่ระบบเก็บข้อมูล
ประโยชน์ของการใช้ Ahrefs Keyword Generator คือ ช่วยเราเช็คคำค้นหาที่เราสนใจในระบบ ว่าคำ Keyword นั้นมีความยากง่ายต่อการอ่านมากน้อยแค่ไหน อีกทั้งมีปริมาณการค้นหาสูงแค่ไหน เพื่อที่คุณจะได้นำข้อมูลนี้ไปประเมินเพื่อปรับกลยุทธ์ให้กับบทความของคุณ
3.คุณสามารถเช็ค Ranking เว็บไซต์ฟรี ผ่านลิงก์นี้ “คลิก“
คุณสามารถใส่คำ Keyword ที่คุณสนใจไปในช่องการค้นหา เพื่อให้โปรแกรมประเมินว่าเว็บไซต์บทความของคุณที่มีคำ Keyword ดังกล่าว ติดอันดับที่เท่าไหร่ของการค้นหา โดยโปรแกรม SERP จะแสดงผลแค่เว็บไซต์ที่ติด 3 อันดับของการค้นหาเท่านั้น ถ้าคุณอยากสืบค้นอันดับมากกว่านี้คุณต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
โดยอักษรย่อของการค้นหาจะมีความหมายดังนี้
- DR ( Domain Rating) คือคะแนนของโดเมนโดยวัดจาก Backlink
- UR (URL Rating) คือคะแนนของ URL นั้นๆ โดยวัดจาก Backlink
- Backlinks คือ จำนวน Backlinks ของหน้านั้นๆ ที่เชื่อมโยงกับเว็บไซต์อื่นๆ
- Domains คือ จำนวนโดเมนที่ติดใน SERPs ซึ่งตรงนี้ก็ไม่มีความสำคัญอะไรมาก
- Traffic คือ จำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ที่เข้าไปอ่านบทความของคุณ
- Keywords คือ ตัวที่บ่งบอกว่าบทความของคุณติดอันดับการค้นหาด้วยคำว่าอะไรบ้าง
ประโยชน์ของการใช้โปรแกรมนี้เช็ก Ranking คือ ระบบช่วยแสดงให้คุณเห็นภาพรวมว่า Keyword ของคุณมีอันดับการเชื่อมโยง Backlink ที่มีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน อีกทั้งมีจำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์เท่าไร
4.คุณสามารถใช้ Ahrefs Webmaster Tool เพื่อดูคะแนนรายงานส่วนต่าง ๆ ได้ฟรี ผ่านลิงก์ webmaster Tools
โปรแกรม Ahrefs Webmaster Tool จะแสดงผลรายงานข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้มาจากลิ้งก์โดเมนที่คุณสนใจ จุดเด่นของโปรแกรมนี้คือ การแสดงผลรายงานรูปแบบ Infographic ที่ดูง่าย เหมาะกับคนที่ไม่ได้มีความรู้เรื่องเทคนิคการใช้โปรแกรมเพื่อทำบทความ SEO อีกทั้งโปรแกรมนี้ สามารถรายงานข้อบกพร่องของเว็บไซต์ โดยที่คุณสามารถปรับแก้ไขในระบบได้เลย
มาเรียนรู้การใช้โปรแกรมแบบเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งเหมาะกับสาย SEO มืออาชีพอย่างคุณ
หลังจากที่เราได้เรียนรู้การใช้โปรแกรม Ahrefs แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายกันแล้ว คุณก็จะพบได้ว่า ถึงแม้โปรแกรมนี้จะเป็นโปรแกรมที่ใช้ฟรี แต่มันก็มีข้อจำกัดมากมาย หัวข้อนี้เราจะพาคุณมาทลายข้อจำกัดนั้น ด้วยการสอนวิธีใช้ Tools ตัวนี้แบบเสียค่าใช้จ่ายกัน
1. ทำการติดตั้งโปรแกรมเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านลิงก์นี้
2. เลือกราคาที่คุณต้องการจะจ่ายเป็นรายเดือน ซึ่งนักเขียนบทความ SEO ส่วนมากจะเลือกเสียค่าบริการ 99 เหรียญ หรือประมาณ 3,000 บาทต่อเดือนเป็นหลัก
3. ผลลัพธ์การค้นหาของโปรแกรมแบบเสียค่าใช้จ่ายคือ ระบบจะแสดงผลลัพธ์ของลิงก์โดเมนของเว็บไซต์ที่คุณที่ในช่องการค้นหา ว่าเว็บไซต์นั้นมีอัตราการเข้าชม, Backlink, Refering Domains (การอ้างถึงโดเมน), Organic Keywords (Keyword เฉพาะ), Organic traffic (ผู้เข้ามาเยี่ยมชมดั้งเดิม), Traffic Value (ค่าแสดงผลว่าเว็บไซต์ของคุณประหยัดค่าโฆษณาไปเท่าไร กรณีนี้ใช้กับการทำ SEM)
4. โปรแกรมแบบเสียค่าใช้จ่ายยังสามารถคำนวนคำ Keyword ของคุณได้ด้วยนะ โดยคุณสามารถพิมพ์ Keyword ลงไปในช่องการค้นหา
ผลลัพธ์ที่ได้โดยการใช้แบบเสียค่าใช้จ่ายคือ หน้าจอจะแสดงผล Keyword Research เกี่ยวกับจำนวนผู้เข้าชม โดยแยกเป็นรายประเทศ, แยกตามลำดับความยากของคำ, และจำนวนคนที่กดคลิก Keyword เป็นต้น
5.คุณสามารถใช้โปรแกรมหาไอเดียในการทำคอนเทนต์ ผ่านฟีเจอร์ Content Gap
ฟังก์ชัน Content Gap จะเป็นตัวช่วยให้คุณสามารถค้นหาไอเดียสำหรับทำคอนเทนต์ได้ (ถ้าอยากรู้ว่าคอนเทนต์สำคัญอย่างไร ติดตามได้ในบทความนี้) เพียงแค่คุณใส่ลิ้งของคุณและลิงก์ของเว็บไซต์คู่แข่งลงไปในช่องการค้นหา จากนั้นระบบก็จะประมวลผลว่าเว็บไซต์ของคุณ และ เว็บไซต์คู่แข่งติดอันดับการค้นหาเป็นลำดับที่เท่าไร นอกจากนี้ระบบยังประเมินคำ Keyword ของบทความคุณ และ บทความคู่แข่งด้วยว่าคำ Keyword ติดอันดับที่เท่าไรของการค้นหา
สรุปการทำงานAhrefs เครื่องมือสุดเทพที่นัก SEO ควรรู้
หลังจากที่เราได้พาคุณไปรู้จักกับเครื่องมือแล้ว คุณจะเห็นได้ว่ามันเป็นตัวช่วยที่ทำให้คุณสามารถตรวจสอบปัญหาของเว็บไซต์, ตรวจสอบ Backlink, ตรวจสอบ Ranking เว็บไซต์ของคุณ อีกทั้งยังเป็นตัวช่วยในการค้นหาไอเดียของคำ Keyword อีกด้วย
โดยเครื่องมือนี้ก็มีทั้งแบบเสียค่าใช้จ่ายเพื่อให้การทำบทความ SEO ของคุณเป็นเครื่องง่ายขึ้น และแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อให้คุณได้ทดลองใช้แบบฟรี ๆ เห็นไหมล่ะ! ว่าโปรแกรม Ahrefs เป็นเครื่องมือสุดน่ารู้ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อกูรู SEO อย่างคุณโดยเฉพาะ