เทคนิคลับสร้าง Brand Awareness ในธุรกิจออนไลน์ให้ลูกค้าติดใจ ควรโฟกัสเรื่องอะไร?

Picture of THAITOPSEO
THAITOPSEO
เทคนิคลับสร้าง Brand Awareness ในธุรกิจออนไลน์ให้ลูกค้าติดใจ ควรโฟกัสเรื่องอะไร?

ในยุคดิจิทัลนี้ หากธุรกิจออนไลน์ของเราไม่ถูกใจและติดอยู่ในหัวของลูกค้า ก็อาจเป็นไปได้สูงที่ผู้คนจะลืมเลือนเราไปเสียเฉย ๆ ด้วยเหตุนี้เราต้องไม่ทำให้แบรนด์ของเรานั้นเหมือน ‘ปลาในทะเล’ ที่มีอยู่ทั่วไป แต่ให้เป็น ‘ปลาที่โดดเด่น’ เพื่อทำให้ทุกคนต้องการที่จะตามหาเรา นั่นคือการสร้าง Brand Awareness ที่จะทำให้ลูกค้ารู้ว่า เราอยู่ตรงไหนในตลาด โดยไม่เพียงแค่ให้คนรู้จัก แต่ยังทำให้พวกเขาจดจำและต้องการกลับมาใช้บริการของเราอีก

Brand Awareness คืออะไร

Brand Awareness คืออะไร

“Brand Awareness” หรือในภาษาไทยเรามักเรียกว่า “การรู้จักหรือรับรู้แบรนด์” เป็นการแสดงถึงความรู้และความเข้าใจของผู้บริโภคต่อแบรนด์ของเรา ที่ไม่เพียงแค่เขารู้จักเราเท่านั้น แต่ยังเข้าใจและมีความรู้สึกดีต่อสิ่งที่เรานำเสนอ ซึ่งจะทำให้เขานึกถึงเราก่อนเมื่อต้องการสินค้าหรือบริการนั้น ๆ ยิ่งผู้บริโภครู้จักและมีความคุ้นเคยกับแบรนด์ของเรามากเท่าไร ก็โอกาสที่เขาจะเลือกใช้บริการหรือซื้อสินค้าของเราก็มากขึ้นเท่านั้น

โดยการมี “Brand Awareness” ที่ดี หมายความว่า เมื่อคนทั่วไปพิจารณาซื้อสินค้าหรือบริการในประเภทเดียวกันกับที่คุณมีให้บริการ ชื่อแบรนด์ของคุณคือสิ่งแรกที่เขานึกถึง และนี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการตัดสินใจซื้อ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณคิดถึงกาแฟ ชื่อของแบรนด์ “Starbucks” อาจจะปรากฏขึ้นในใจคุณทันที ในขณะเดียวกันก็อาจมีแบรนด์อื่น ๆ อีกมากมาย เช่น Dunkin, Amazon, Black Canyon เป็นต้น หรือเมื่อคุณคิดถึงการซื้อสมาร์ตโฟน iPhone หรือ Samsung อาจเป็นสิ่งแรกที่คุณคิดถึง

ด้วยเหตุนี้การมี “การรู้จักหรือรับรู้แบรนด์” ที่แข็งแกร่งนั้น ช่วยให้ธุรกิจของคุณแข็งแรงยืนยาวในตลาด ทำให้ลูกค้ามีความคิดถึงเราเมื่อพวกเขาต้องการสินค้าหรือบริการในประเภทนั้น และทำให้เรามีโอกาสที่จะขายสินค้าหรือบริการของเราได้มากกว่าคู่แข่ง ที่สำคัญยังส่งผลต่อประสบการณ์กับลูกค้ามีต่อแบรนด์ของเรา เมื่อลูกค้ารู้จักและไว้วางใจแบรนด์ของเรา เขาจะมีโอกาสกลับมาใช้บริการหรือซื้อสินค้าของเราอีก เขายังอาจแนะนำแบรนด์ของเราให้กับคนอื่น ๆ ได้ด้วย

ระดับของการสร้าง Brand Awareness

ระดับของการสร้าง Brand Awareness

การสร้าง “Brand Awareness” ไม่ได้เกิดขึ้นในคืนเดียว แต่เป็นกระบวนการที่ต้องสร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยเราสามารถแบ่งระดับออกเป็นหลายระดับ ดังนี้

  • การรับรู้ (Recognition) – ในระดับนี้ ผู้คนเริ่มรู้จักชื่อแบรนด์ของคุณ แต่อาจยังไม่ค่อยรู้ว่าคุณมีสินค้าหรือบริการอะไรบ้าง เช่น พวกเขาได้ยินชื่อจากการโฆษณาทางโทรทัศน์หรือสื่อต่าง ๆ ให้อารมณ์แบบเคยได้ยินผ่านหูแต่ไม่ได้รู้จักลึกซึ้ง
  • การรู้ (Knowledge) – ผู้คนไม่เพียงแค่รู้จักชื่อแบรนด์ แต่ยังรู้ถึงสินค้าหรือบริการที่คุณมี เช่น พวกเขาได้เห็นโฆษณาของคุณบ่อยครั้งในโซเชียลมีเดีย จนกระทั่งรู้ว่าคุณสามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้บ้าง
  • การชอบ (Liking) – ในระดับนี้ลูกค้าไม่เพียงแค่รู้จักและรู้ถึงสินค้าของคุณ แต่พวกเขายังมีความรู้สึกดีต่อแบรนด์ของคุณ อาจจากประสบการณ์การใช้งาน หรือการตอบรับที่ดีจากการบริการ หรือแม้กระทั่งในส่วนของการสื่อสารองค์กรที่สร้างภาพลักษณ์ที่ดี ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าเปิดใจในการใช้แบรนด์ของคุณ
  • การพึงพอใจ (Preference) – ผู้คนเริ่มมีการแสดงความสนใจในสินค้าหรือบริการของคุณมากขึ้น และเมื่อเขาต้องการซื้อสินค้าในประเภทเดียวกัน เขาจะคิดถึงแบรนด์ของคุณก่อนเป็นอันดับแรก
  • ความภักดี (Loyalty) – ในระดับสุดท้ายนี้ ผู้คนจะไม่เพียงแค่รู้จักแบรนด์ของคุณ แต่ยังซื้อสินค้าหรือบริการจากคุณอย่างต่อเนื่อง และอาจแนะนำแบรนด์ของคุณให้กับผู้อื่นด้วย

การที่ธุรกิจสามารถขยับผู้คนไปถึงระดับ “ความภักดี” ได้นั้น เป็นจุดหนึ่งที่บอกได้เลยว่าสามารถทำให้ธุรกิจมีโอกาสสร้างความยั่งยืนได้ และสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน

5 เรื่องที่ควรโฟกัสเมื่อเริ่มต้นสร้าง Brand Awareness

5 เรื่องที่ควรโฟกัสเมื่อเริ่มต้นสร้าง Brand Awareness

แน่นอนว่าการสร้าง Brand Awareness ไม่ใช่สิ่งที่มีแบบแผนอยู่อย่างตายตัว บางครั้งเราอาจรู้สึกว่าวิธีการแต่ล่ะแบรนด์ที่ใช้นั่นมีความเหมาะสมไปตามสถานการณ์หรือจังหวะที่ต่างกัน มักขึ้นอยู่กับความสร้างสรรค์ในการใช้งานว่าการทำการตลาด ณ เวลานั้นมีความพอดีกับสิ่งที่เรากำลังดำเนินการหรือไม่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม สิ่งที่เราจะบอกต่อไปนี้ก็คือ “จุดโฟกัส” สุดคลาสิคที่บอกได้เลยว่าหากคุณจะเริ่มสร้างธุรกิจออนไลน์ คุณก็จำเป็นที่จะต้องหยิบ 5 สิ่งนี้มาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ในยุคของดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง, การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญที่ธุรกิจต้องให้ความสำคัญเพราะจะนำไปสู่ความสำเร็จในการเรียกความสนใจและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยอยากให้คุณดู 2 เรื่อง ซึ่งก็คือ 

1.1 Content Marketing

การสร้างบล็อก, วิดีโอ, หรือ Infographic คือเครื่องมือในการสื่อสารข้อมูลหรือประโยชน์ต่าง ๆ ให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราว, ข้อมูลเฉพาะ, หรือความรู้ที่เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการของคุณ การที่เนื้อหามีคุณภาพและเป็นเอกลักษณ์จะทำให้ลูกค้ามีความรู้สึกว่าได้รับค่าครบถ้วนจากการเข้าถึงแบรนด์ของคุณได้ บ่อยครั้งที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึง Content และรับรู้ได้ทันทีว่าเราเป็นใคร ซึ่งการที่เราได้ให้ประโยชน์กับผู้บริโภคไปก่อนเราอาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ “inbound marketing” (แนบลิ้งก์) ซึ่งจะช่วยดึงดูดให้ผู้คนเข้าหาคุณได้อย่างมหาศาล

1.2 SEO

ไม่ว่าเราจะสร้างเนื้อหาที่ดีแค่ไหน หากไม่มีใครพบเจอก็เป็นการเสียโอกาสไปเปล่า ๆ เว็บไซต์ที่ถูกปรับแต่งด้วยเทคนิค SEO จะทำให้เว็บมีโอกาสถูกแสดงผลในการค้นหาของ Google และ Search Engine อื่น ๆ ได้ง่ายขึ้น ทั้งหมดนี้จะทำให้เนื้อหาของคุณได้รับการเปิดดูและสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ “การรับทำ SEO” (แนบลิ้งก์ หน้ารับทำ SEO) ในบริษัทที่ช่วยอย่างเฉพาะเจาะจงจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในปัจจุบัน หากคุณสามารถที่จะลงทุนกับค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้ ก็จะเป็นผลดีต่อแบรนด์ในระยะยาว

การใช้ Content Marketing และ SEO คือสิ่งที่สำคัญเป็นอันดับต้น ๆ หากคุณเชื่อมต่อทั้งสองอย่างนี้ร่วมกัน ก็จะเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการสร้าง Brand Awareness ที่แข็งแกร่งและยั่งยืนได้แล้ว

2.ให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้า

การบริการลูกค้าที่ดีไม่เพียงแต่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า แต่ยังเป็นการสร้างเส้นทางให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอีกครั้ง นอกจากนี้ยังสามารถนำไปสู่การแนะนำผ่านคำพูดของลูกค้าได้ดีทีเดียว ซึ่งการสร้าง Brand Awareness ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราอยากให้คุณลองโฟกัสสิ่งที่นี้

2.1 Feedback และ Reviews

ทำอย่างไรก็ได้เพื่อขอให้ลูกค้าแสดงความคิดเห็นและให้คะแนนผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ ยินดีรับฟีดแบ็คเพื่อใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาต่อไป วิธีนี้ค่อนข้างใช้ได้ผลดีในแง่ของการพัฒนาธุรกิจและจำกัดจุดอ่อนไปทีล่ะเรื่อง การมีรีวิวที่ดีจากลูกค้าจะสร้างความน่าเชื่อถือในแบรนด์ของคุณ ยิ่งคุณมีปฏิสัมพันธ์เพื่อตอบรับฟีดแบ็คมากเท่าไหร่ ยิ่งเป็นผลดีทางธุรกิจ

2.2 Responsive

ในยุคดิจิทัล ความรวดเร็วในการตอบสนองทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าพวกเขามีความสำคัญ ให้บริการที่เต็มใจและตอบสนองคำถามหรือปัญหาของลูกค้าอย่างรวดเร็วจะเพิ่มความพึงพอใจและความไว้วางใจในแบรนด์ของคุณได้อย่างมหาศาล

3.การเล่น Social Media ให้เป็นมืออาชีพ

Social Media ที่ใช้งานอย่างถูกต้องและมีเป้าหมายชัดเจนจะนำไปสู่การสร้าง Brand Awareness ที่แรงกว่าการโฆษณาทางด้านอื่น ๆ ด้วยค่าใช้จ่ายที่ประหยัดกว่าในระยะยาว โดยที่เราสามารถใช้ตัวช่วย 2 ช่องทางนี้ได้

3.1 Influencer Marketing

การทำความร่วมมือกับ Influencers เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบันสำหรับการเพิ่มความตระหนักรู้ต่อแบรนด์ การใช้ผู้มีอิทธิพลในวงการ Social Media เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณจะทำให้เป้าหมายที่คุณต้องการติดต่อได้รับรู้และเชื่อถือคุณมากขึ้น

3.2 Viral Marketing

การสร้างแคมเปญที่มีโอกาสจะเป็นที่สนใจและถูกแชร์ในโซเชียลมีเดียคือวิธีที่ดีในการเพิ่มความตระหนักรู้แบบรวดเร็ว วิธีนี้ท้าทายในการคิดเพราะไม่ใช่ทุก content จะดีได้เสมอไป แต่ถ้าสำเร็จจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีแบบที่คุณไม่คาดคิดเลยทีเดียว

4.จัดงาน Event หรือ การสัมมนาผ่านเว็บ

การจัดงาน Event และการสัมมนาผ่านเว็บนั้นมีอิทธิพลมากในการสร้างความตระหนักรู้และสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้า สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์และสินค้าของคุณมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสในการเปิดเผยวิสัยทัศน์และค่านิยมของธุรกิจอีกด้วย

4.1 Interactive Events

การจัดงานที่มีการโต้ตอบกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น Workshop หรือ การสัมมนาผ่านเว็บ ทำให้ลูกค้ามีโอกาสเข้ามาสัมผัสกับแบรนด์และสินค้าของคุณได้เต็มที่ วิธีนี้ยังช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือรวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและแบรนด์

4.2 Partnerships

การร่วมมือกับแบรนด์อื่นในการจัดงานหรือกิจกรรมร่วมกัน เป็นวิธีที่ดีในการขยายขอบเขตของตลาดเป้าหมาย การส่งเสริมสินค้าหรือบริการของคุณผ่านแพลตฟอร์มของแบรนด์คู่ค้าจะทำให้คุณเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ที่อาจไม่เคยรู้จักคุณมาก่อนได้ด้วย

5.ใช้ Storytelling สร้างเรื่องราวของแบรนด์

การเล่าเรื่องราวไม่เพียงแต่จะทำให้ข้อมูลดูน่าสนใจขึ้น แต่ยังสามารถสร้างความเชื่อมโยงระหว่างแบรนด์กับลูกค้าได้อย่างแรงกล้ากว่า เพราะมนุษย์ต้องการเรื่องราว และเรื่องราวที่ถูกเล่าได้ดีจะสามารถสร้างความประทับใจได้อย่างน่าเหลือเชื่อ โดยให้คุณลองโฟกัสไปที่

5.1 เรื่องราวของแบรนด์

เรื่องราวของแบรนด์ไม่เพียงแต่เป็นเพียงประวัติความเป็นมา แต่ยังเป็นภาพรวมของวิสัยทัศน์, พันธกิจ, และค่านิยมของคุณ การสร้างและแชร์เรื่องราวของแบรนด์ที่สร้างความประทับใจนั้นสามารถทำให้ลูกค้ารู้สึกเกี่ยวข้องและต้องการเป็นส่วนหนึ่งกับภารกิจของคุณ ซึ่งจะช่วยให้คุณและลูกค้าเสมือนกับมีเป้าหมายเดียวกัน

5.2 เรื่องราวของลูกค้า

เรื่องราวของลูกค้าที่พบประสบการณ์ดีจากผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการสร้างความน่าเชื่อถือ การสนับสนุนและแชร์เรื่องราวเหล่านี้จะทำให้คนอื่น ๆ เห็นค่าคุณภาพและผลที่ดีจากการใช้งานสินค้าหรือบริการของคุณได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

สรุป: อยากทำ Brand Awareness ให้ปัง เริ่มได้เลยทันที

การสร้าง Brand Awareness ในยุคดิจิทัลนั้นไม่เพียงแต่จะมุ่งเน้นที่คุณภาพของสินค้าหรือบริการเพียงอย่างเดียว แต่ควรที่จะสร้างความประทับใจและความทรงจำที่ดีต่อลูกค้า การสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพและปรับปรุง SEO เพื่อให้เนื้อหาของคุณถูกค้นพบง่าย นั้นสำคัญไม่แพ้การให้ความสำคัญกับการบริการลูกค้า, ตอบสนองฟีดแบ็คและการจัดการปัญหาในเวลาที่เร็วที่สุด เช่นเดียวกับการเล่น Social Media พร้อมการสร้างแคมเปญที่มีคุณภาพ

ทั้งหมดก็เพื่อสร้างความประทับใจ แสดงความความจริงใจและความเป็นตัวของคุณเอง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะนำพาธุรกิจของคุณไปสู่ความสำเร็จยั่งยืนในระยะยาว โดยเริ่มทำได้เลยทันทีตั้งแต่ตอนนี้

Search
Categories