สร้าง Dashboard ง่าย ๆ ด้วย Google Data Studio

Picture of THAITOPSEO
THAITOPSEO
Google Data Studio

Google Data Studio คือ เครื่องมือฟรีที่มีมานานแล้ว โดยมีหน้าที่เพื่อใช้ในการแสดงผลข้อมูล ในรูปแบบของรูปภาพเพื่อง่ายต่อการทำความเข้าใจมากขึ้น โดยจะใช้ในการค้นหาข้อมูลเชิงลึกได้ จนมาถึงปัจจุบันได้ถูกรวมเข้ากับ Looker จนถูกเรียกว่า Looker Studio จนกลายเป็นอีกแรงสำคัญในการวิเคราะห์ถึงปัญหาทางธุรกิจออนไลน์

โดย Looker Studio สามารถเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลที่ได้รับอนุญาต เป็นแหล่งข้อมูลบุคคลที่สาม ยกตัวอย่างเช่น Google Ads, Facebook Ads หรือ Tableau เป็นต้น และโดยเฉพาะสำหรับการทำ SEO แล้ว การเชื่อมต่อกับ Google Analytics จะยังช่วยให้คุณมีโอกาสมากขึ้นในการที่จะพัฒนาปรับปรุง ในเรื่องของการจัดอันดับการค้นหา การเข้าชมเว็บไซต์ หรือแม้แต่การเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับเว็บไซต์คุณ

Contents hide
5 ทริคในการใช้ Google Data Studio ช่วยในการทำ SEO

5 ทริคในการใช้ Google Data Studio ช่วยในการทำ SEO

5 ทริคในการใช้ Google Data Studio ช่วยในการทำ SEO

เมื่อคุณเชื่อมระหว่าง Google DataStudio กับเครื่องมือการทำ SEO เช่น Google Analytics หรือ Search Console แล้ว มันก็จะทำให้คุณจะสามารถวิเคราะห์ประสิทธิภาพทั่วไปของเว็บไซต์คุณเองได้เลย และยังสามารถตรวจสอบเป้าหมายของคุณได้อีกด้วย

โดยการใช้ส่วนใหญ่จะเป็นการเปรียบเทียบแหล่งที่มาของการเข้าชมเว็บไซต์คุณ เพื่อดูว่าผลลัพธ์การเข้าชมเว็บไซต์ของคุณมันดีหรือไม่ ดังนั้นจึงมีอีก 5 เทคนิคง่าย ๆ ในการที่คุณจะได้รู้ว่า Google DataStudio สามารถมาช่วยในเรื่องการทำ SEO ของคุณได้อย่างไร

1. การใช้วิเคราะห์ข้อมูลผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ (Analyze organic traffic)

เนื่องจาก Google DataStudio มีการเชื่อมต่อกับหลากหลายเครื่องมือจึงทำให้ให้มีวิธีที่วิเคราะห์ข้อมูลผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณได้หลากหลายวิธีเช่นกัน แต่วิธีที่ดีที่สุดในการคือการเชื่อมต่อกับเครื่องมือ Google Analytics ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้

1.1 ให้คุณลงชื่อเข้าใช้ Data Studio ของคุณ ผ่านทาง https://datastudio.google.com/ แล้วคลิกที่คำว่า “สร้าง หรือ Create”

1.2 จากนั้นให้คุณคลิกที่ “แหล่งข้อมูล หรือ Data source”

ลงชื่อเข้าใช้ Google Data Studio 1

1.3 เลือกที่เครื่องมือ “Google Analytics” ที่แสดงอยู่ในลิสต์ Data Source

Google-Analytics

ขอบคุณภาพจาก www.wordstream.com

1.4 หากคุณตั้งค่า property parameters แล้ว คุณสามารถป้อน property parameters เพื่อที่จะนำภาพ วิดีโอ หรือ URL เข้าอัตโนมัติ

1.5 จากนั้นให้คุณทำการกำหนดข้อมูลของคุณให้แคบลงด้วยตัวกรองวันที่ และยังสามารถกรองข้อมูลของคุณตามช่องทางหน้าเว็บไซต์ ประเภทอุปกรณ์ ประเทศ ได้อีกด้วย

Type

ขอบคุณภาพจาก www.wordstream.com

สิ่งที่คุณควรติดตามและให้ความสนใจอยู่เสมอ

– การติดตามผลโดยการคลิกและกด CTR

เป็นการเชื่อมต่อกับเครื่องมือ Google Search Console เพื่อตรวจสอบการคลิกเข้าชมเว็บไซต์ของคุณตามช่วงเวลาที่กำหนดได้เพียงแค่คลิกและกดที่แท็บ CTR โดยผลจะแสดงออกมาเป็นกราฟแผนภูมิที่แม่นยำ จากนั้นคุณก็จะสามารถระบุหรือกำหนดวันที่ต้องการให้แสดงผลได้ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเปลี่ยนการแสดงผลจากรายวันเป็นรายสัปดาห์ หรือจากสัปดาห์ให้กลายเป็นเดือนได้เลย

เลือกช่วงเวลา

ขอบคุณภาพจาก www.wordstream.com

– การติดตามผลแบบเฉพาะหน้าเพจ

เป็นการใช้ตัวเลือกในการเลือกหน้าเพจเพื่อที่จะตรวจสอบการเข้าชมเฉพาะหน้าเว็บนั้น ๆ หรือเป็นการตรวจสอบเพียงบางส่วนของเว็บไซต์คุณ โดยการแสดงผลจะออกมาในรูปแบบของตารางเพื่อให้เปรียบเทียบผลของแต่ละหน้าเว็บเพจที่มีความแตกต่างกัน

– การติดตามประสิทธิภาพของคีย์เวิร์ด

โดยคุณสามารถเชื่อมต่อระหว่าง Google DataStudio กับ Google Analytics หรือ Search Console เพื่อติดตามประสิทธิภาพของคีย์เวิร์ดของเว็บไซต์คุณได้ โดยถ้าหากคุณพบว่าคีย์เวิร์ดของคุณมีประสิทธิภาพต่ำ คุณจึงควรรีบแก้ไขปัญหานี้โดยใช้เครื่องมือที่จะช่วยหาคีย์เวิร์ดที่ตรงตามเป้าหมายคุณทันที

2. การใช้ตรวจสอบข้อมูลการค้นหาไซต์ (Monitor site search data)

สามารถใช้เพื่อตรวจสอบคำค้นหาที่ผู้เข้าชมได้ใช้ในการเลือกหาเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นเพื่อที่จะช่วยคุณปรับปรุงเนื้อหาของเว็บไซต์ที่อาจยังมีปัญหาในเรื่องของคำค้นหาอยู่ จึงขอแนะนำให้คุณเพิ่มวิดเจ็ตใน Google Analytics โดยบทความ Analytics Mania นี้จะเป็นการอธิบายถึงวิธีการตั้งค่าข้อมูลเชิงลึกในเรื่องของการค้นหาไซต์ใน Google Analytics 4 (GA4) และยังอธิบายถึงวิธีการเชื่อมต่อกับ Google Data Studio

Monitor site search data

ขอบคุณภาพจาก www.wordstream.com

3. การใช้ติดตามผลความสำเร็จของเป้าหมาย (Track goal completions)

คุณสามารถใช้ในการแสดงผลความสำเร็จของเป้าหมายคุณได้ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องสลับไปมาระหว่างหน้าเพจหลายหน้าให้เกิดความยุ่งยาก แต่แค่เพียงคุณรวบรวมผลทั้งหมดด้วย Google Analytics คุณก็จะสามารถเห็นทั้งหมดได้จากแดชบอร์ด Data Studio และเพื่อแก้ไขในส่วนที่อาจเกิดข้อผิดพลาด จึงมีวิธีการเพิ่มเติมดังนี้

3.1 ให้คุณคลิกแท็บ Add Chart บน Google Analytics และเลือก Scorecard

Google Analytics และเลือก Scorecard

ขอบคุณภาพจาก www.wordstream.com

3.2 จากนั้นเลือกตัวชี้วัดและเพิ่มเป้าหมายของคุณเข้าไป เช่นหากคุณต้องการที่จะเลือกเป้าหมายสำหรับอัตราที่จะโดนตีกลับใน Google Analytics ดังนั้น คุณควรพิมพ์เป้าหมายไปว่า ‘การลดอัตราการตีกลับให้ต่ำกว่า30%’ (และที่ต้องใส่ 30% เติมเข้าไปด้วยนั้นเป็นเพราะการเปรียบเทียบเป้าหมายจะวัดค่าออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์โดยจะต้องหารด้วยอัตราปัจจุบัน)

เลือกตัวชี้วัดและเพิ่มเป้าหมาย

ขอบคุณภาพจาก www.wordstream.com

3.3 ต่อมาคุณสามารถตั้งค่าเพื่อให้การแสดงผลจากเปอร์เซ็นต์เป็นภาพแผนภูมิ แค่นี้คุณก็จะสามารถมองเห็นว่าคุณนั้นเสี่ยงกับอัตราการตีกลับมากแค่ไหน

4. การใช้ตรวจสอบแหล่งที่มาของการเข้าชมเว็บไซต์ (Investigate traffic sources)

คุณสามารถใช้ในการตรวจสอบแหล่งที่มาของการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณได้อย่างง่ายดายมาก เพื่อที่จะได้รู้ว่าแหล่งที่มาอันไหนที่จะพาให้เว็บไซต์ของคุณสำเร็จเป้าหมายได้ เพื่อในที่สุดก็จะทำให้คุณจะพบโอกาสในการสร้างแผนการตลาดแบบหลายช่องทางที่มั่นคงได้มากขึ้น

ขอบคุณภาพจาก www.wordstream.com

Investigate-traffic-sources

โดยแดชบอร์ดของคุณอาจสามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบการเข้าชมประเภทใดก็ได้เลยก็จริง แต่ในขณะเดียวกันถ้าคุณใช้ Google DataStudio เชื่อมต่อกับเครื่องมือ Google Analytics ก็จะสามารถรวบรวมแพลตฟอร์มส่วนใหญ่ที่ได้รับความนิยมไว้ในที่เดียวได้เลย

วิธีการติดตามการเข้าชมจากโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย

  1. คุณจะต้องเชื่อมต่อกับ Google Analytics ของคุณ และไปยังข้อมูลแผนภูมิ
  2. เลือกแหล่งข้อมูล เช่น ติดตามโฆษณาจาก Facebook ติดตามโฆษณาจาก YouTube หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ ที่คุณต้องการจะตรวจสอบ
  3. ต่อจากนั้นคุณต้องเลือกประเภทของแผนภูมิให้ดี เนื่องจากในบางแผนภูมิจะมีประโยชน์มากสำหรับการแสดงผลการเข้าชม
    ยกตัวอย่างเช่น กราฟแผนภูมิ Line chart ที่สามารถเปรียบเทียบการเข้าชมตามช่วงวัยของผู้เข้าชมได้
    โดยทำให้รู้ว่าคนอายุประมาณเท่าไหร่ที่มีการเข้าชมบ่อยที่สุด
  4. คุณสามารถกรองข้อมูลอย่างละเอียดได้โดยคุณใช้ข้อกำหนด เช่น การกำหนดช่วงเวลาสำหรับตรวจสอบจำนวนผู้เข้าชมตามช่วงเวลานั้น ๆ

เทคนิคเพิ่มเติมในการสำรวจแผนภูมิและการวัดผลค่าตอบแทนของตารางเปรียบเทียบ

เทคนิคนี้จะเป็นการตรวจสอบผลการเปรียบเทียบอัตรากำไรจากการลงทุน (ROI) ในแต่ละช่วงเวลาว่ามีช่วงใดบ้างที่มีแนวโน้มว่ามีความประสบความสำเร็จอย่างเห็นได้ชัดที่สุด นอกจากนี้การวัดผลค่าตอบแทนที่เป็นการติดตามผลลัพธ์ในการลงทุนยังสามารถช่วยคุณค้นหาช่องทางที่อาจจะทำกำไรได้มากที่สุดได้ด้วย โดยมีเทคนิคง่าย ๆ ดังนี้

  • เปิดการตั้งค่าข้อมูลแผนภูมิ
  • เลือกประเภทแผนภูมิให้เป็นตารางหรือแผนภูมิแบบเรียงซ้อน
  • จากนั้นป้อนค่าโฆษณา การแสดงผล และคลิกเป็นเมตริก
  • เลือกช่วงเวลาสำหรับการเปรียบเทียบ

เพียงแค่นี้ก็จะมีการแสดงการนำเข้าข้อมูลที่ต้องการส่งไปยัง Google Analytics

หากคุณต้องการให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับที่สูงขึ้น คุณต้องให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงลิงก์ที่มีคุณภาพด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากคุณเชื่อมต่อเครื่องมือ SEO กับ Google DataStudio แล้วคุณก็จะสามารถตรวจสอบแหล่งอ้างอิงหรือลิงก์ที่เชื่อมอยู่กับเว็บไซต์คุณได้โดยสามารถกำหนดได้ว่าลิงก์ใดที่มีประสิทธิภาพเหมาะสมสำหรับเว็บไซต์ของคุณมากที่สุด โดยการใช้ Google DataStudio ควบคู่ไปกับเครื่องมือ SEO ทำให้มีเคล็ดลับเพิ่มเติมดังนี้

ahrefs กับ Google Data Studio

ขอบคุณภาพจาก www.wordstream.com

การค้นหาแหล่งอ้างอิงที่มีศักยภาพสูง

คุณไม่ควรดูแค่เพียงจำนวณในการเข้าชมจากลิงก์อ้างอิงของคุณเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่คุณควรตรวจสอบเปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มขึ้นของการรับส่งข้อมูลด้วย และหากคุณเห็นเปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มขึ้นจากลิงก์อ้างอิงล่าสุด แสดงว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะใช้ลิงก์นั้นในการเข้าถึงและสร้างการเชื่อมโยงลิงก์เพิ่มในเว็บไซต์ของคุณ

การตรวจสอบลิงก์ตามหมวดหมู่

คุณสามารถจัดกลุ่มข้อมูลที่ส่งออกจากตัวตรวจสอบลิงก์ได้โดยการกรองจากแดชบอร์ดของคุณเพื่อให้ง่ายต่อการติดตามและการอ้างอิงมากขึ้น เช่น คุณอาจยกเว้นการใช้ลิงก์ที่เก่าไปหรือลิงก์ที่อ้างอิงจากโซเชียล เป็นต้น

สรุป การเริ่มใช้ Google Looker Studio สำหรับ SEO

เนื่องจากเป็นการผสานรวมกันระหว่าง Google Data Studio กับ Looker จึงได้ทำให้ ในปัจจุบัน SEO และนักลงทุนการตลาดมีอำนาจมากขึ้นในแดชบอร์อย่างเห็นได้ชัด รวมไปถึงการที่หลากหลายแพลตฟอร์มได้หันมาจับมือร่วมกันมากขึ้น ดังนั้นจึงแสดงให้เห็นว่าการใช้ Google DataStudio กับ SEO ถือเป็นสิ่งที่ส่งผลดีอย่างมาก และเหมาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการค้นหาข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวกับเว็บไซต์ หรือใช้เพื่อที่จะนำมาปรับปรุงการเข้าชม การจัดอันดับ และการตรวจสอบประสบการณ์ของผู้ใช้เว็บไซต์ของคุณอีกด้วย

Search
Categories