การเขียน Blog คือหนึ่งในกลยุทธ์ชั้นดีที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณมีผู้เยี่ยมชมที่หลากหลาย เราอาจเคยคุ้นหูมาบ้างแล้วกับคำว่า Guest Post หรือในอีกชื่อหนึ่งคือ Guest Blogging ที่จะช่วยยกระดับเว็บไซต์ของคุณให้ติด Ranking สูง ๆ
นับเป็นไอเดียที่น่าสนใจ หากคุณคือ Bloger หรือ Web creator ที่กลยุทธ์เหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้ โดยในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเจ้าสิ่งนี้กันให้มากขึ้น เพื่อดูว่าคุณจะมีวิธีนำมันไปใช้ได้อย่างไร
Guest Post คืออะไร
Guest Post หรือ Guest blogging คือการเขียนบทความหรือ Blog เพื่อเผยแพร่บนเว็บไซต์อื่นที่มีเนื้อหาคล้ายคลึงกันกับ Content ของเรา โดยหวังให้เกิดการดึงดูด User เข้ามาเยี่ยมชมในเว็บไซต์ของเรา เป็นการเพิ่ม Traffic และเพิ่ม Domain Authority ให้เว็บไซต์ด้วย Backlink อีกทั้งในแง่ของธุรกิจยังเพิ่มการรับรู้ Brand awareness และสร้างความน่าเชื่อถือได้อีกด้วย
ซึ่งวิธีการนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในการเพิ่มพลังให้กับเว็บไซต์ให้มี Ranking สูงขึ้น แต่วิธีการนี้ก็มีความยากเช่นกัน สามารถทำได้ทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงิน ดังนั้นผู้ที่ทำ Guest Blogging จึงจำเป็นต้องเตรียมตัวและวางแผนมาเป็นอย่างดี เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการลงทุน
ทำไม Guest Post ถึงสำคัญกับการทำ SEO
อย่างที่เรารู้กันว่าการทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพ ส่วนหนึ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญก็คือ Backlink แม้ Google จะใช้เครื่องมือเพื่อจัด Ranking สำหรับ Search engine ได้ซับซ้อนเท่าไหร่ แต่เชื่อได้เลยว่า Backlink ก็ยังเป็นเสาหลักสำคัญที่ Google จะประเมินว่าเว็บไซต์นั้นมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ โดยหลายคนอาจตั้งคำถามว่าเราต้องอย่างไรถึงจะได้ Backlink กลับมา? ซึ่งการทำ Guest Blogging จะให้คำตอบกับเราได้ในเรื่องนี้
ข้อสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ เมื่อรูปแบบการทำ Content มีลักษณะคล้ายคลึงกัน อยู่ในหมวดหมู่เนื้อหาเดียวกัน ก็สามารถเพิ่มโอกาสการถูกค้นหาของเว็บไซต์เราผ่าน Content ที่อยู่เว็บไซต์ที่เราไปฝากโพสต์ได้ด้วย จึงทำให้คะแนนของการทำ SEO มีผลต่อเนื่องกัน ทั้งยังช่วยดึงอันดับของเราให้อยู่ใน Ranking ที่สูงขึ้นตาม โดยเฉพาะหากเว็บไซต์นั้นเป็นแหล่งที่น่าเชื่อถือและมีคนติดตามเป็นจำนวนมาก
มาเริ่มทำ Guest Post กันเถอะ!
การทำ Guest Post ไม่ยากและไม่ง่าย สิ่งสำคัญคือ “คุณเตรียมพร้อมมาแล้วแค่ไหน?” เพราะการวางแผนที่ดีจะช่วยให้เรารู้ว่าต้องทำอะไรก่อน และจะบรรลุเป้าหมายได้ด้วยวิธีไหน โดยเริ่มจากหัวข้อดังนี้
เรื่องต้องรู้ก่อนจะทำ Guest Post
การโพสต์ทุกครั้งจะส่งผลต่อเว็บไซต์ของคุณอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และหัวข้อนี้คือสิ่งที่คุณต้องรู้ เพื่อตรวจสอบก่อนว่า Content ของคุณมีพลังพอหรือไม่ ในการแข่งขันเพื่อทำ Guest Blogging
- บทความของคุณเป็นประโยชน์ต่อใคร?
หากคุณได้ตรวจสอบบทความของตัวเองแล้วพบว่า มันไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรเลย ก็นับได้ว่า Content ตัวนี้ไม่มีคุณค่ามากพอที่จะนำไปให้ใครอ่าน เพราะนอกจากไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น ผู้อ่านยังเสียเวลาอีกด้วย ดังนั้นการรู้จักหา Pain point แล้วสร้างสรรค์ Content ที่ช่วยแก้ไขปัญหานั้น ๆ คือเส้นทางที่ดีกว่าเพื่อการสร้าง Content ที่ดีของคุณ - ใครจะอยากอ่านบทความของเรา?
การรู้ Target จะช่วยให้เราเสนอ Content เพื่อตอบสนองพวกเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ การสำรวจก่อนว่าคนเหล่านั้น “อยากจะรู้เรื่องอะไร?” คือสิ่งที่สำคัญเป็นอันดับแรก ๆ การค้นหาว่าใครอยากอ่านบทความเราบ้าง ไม่ได้ต่างจากการค้นหาว่าใครมี Pain point อะไรและอยู่ที่ไหน ซึ่งทักษะนี้ไม่ได้ต่างจากการ “หาลูกค้า” ดังนั้นนอกจากจะเขียนบทความที่มีประโยชน์แล้ว ยังต้องคำนึงด้วยว่าจะสามารถเสิร์ฟ Content ให้ผู้ที่ต้องการมันได้อย่างไรด้วย - อะไรที่ทำให้คนอ่านแชร์บทความเราต่อ?
บทความหรือ Content ที่ดี ควรมีพลังมากพอให้เกิดการส่งต่อ เพราะไม่เพียงแค่เราจะทำบทความมาเพื่อประโยชน์ของใครบางคนเท่านั้น แต่ทุกประโยชน์ทุกคนต้องได้รับรู้ร่วมกัน และเห็นถึงความสำคัญของมันให้ได้ การออกแบบบทความโดยตระหนักถึงเรื่องนี้ด้วย ก็นับเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ เพราะพฤติกรรมการส่งต่อหรือกดแชร์ คือสิ่งที่บอกได้ว่า “ฉันอยากให้อีกหลายคนได้รู้เรื่องราวดี ๆ แบบนี้” นับเป็นหนึ่งในการสร้าง Organic traffic ที่ดีทีเดียว - เนื้อหาซ้ำกับแหล่งอื่นหรือไม่?
แทบไม่มีประโยชน์ถ้าคุณจะแข่งขันกันบนเนื้อหาที่ซ้ำซาก (เว้นแต่ว่าคุณจะทำได้ดีกว่า หรือมีทักษะการเล่าเรื่องที่โดนใจกว่า) เราอาจไม่ได้บอกให้หลีกเลี่ยงการแข่งขันเหล่านี้ไปโดยสิ้นเชิง แต่พยายามพัฒนาเนื้อหาหรืออัปเดตให้เป็นปัจจุบันมากกว่า ก็จะทำให้บทความของคุณดูมีอะไรมากกว่าคู่แข่งแล้ว - Keyword ที่ใช้อิ่มตัวแค่ไหนสำหรับ SERP?
คล้ายกันกับข้อที่แล้ว แต่เป็นการเจาะจงไปยังตัว Keyword โดยตรง ไม่ต้องตกใจหากพบว่ามีอัตราการแข่งขันที่สูง เพราะคุณยังสู้ได้ด้วยปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลร่วมกัน แต่การวางกลยุทธ์เพื่อใช้ Keyword ได้เหมาะสมจะช่วยให้คุณไต่อันดับได้ไม่ยาก - คุณได้เลือกเว็บไซต์ที่เหมาะกับ content ตัวเองหรือเปล่า?
การเลือกเนื้อหาที่ใกล้เคียงกับคือ ธรรมชาติของการทำ Guest Blogging ไม่มีเหตุผลที่คุณจะเขียนเรื่อง “การถักไหมพรม” บนเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ “งานปิโตรเลียม” ดังนั้นการเลือกลักษณะ Content ให้มีความสอดคล้องกัน คือสิ่งที่จะทำให้ User เห็นภาพได้อย่างชัดเจนว่าจะได้อะไรจากการเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์นี้
ก้าวแรกของการทำ Guest Post เริ่มที่อะไร?
ภาพรวมของการทำ Guest Post สามารถแบ่งได้ตามขั้นตอน ดังนี้
1. จัดการข้อมูลของคุณให้เป็นระเบียบ – พยายามรวบรวมข้อมูลทั้งหมดที่คุณมีเพื่อจัดระเบียบออกมาให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด อาจมีการบันทึกและเก็บไว้บน “Google sheet” เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลในส่วนของ
- ชื่อเว็บไซต์
- URL
- Moz domain authority (DA)
- หัวข้อ Content
- ไอเดียการฝาก post
- ชื่อ Editor หรือผู้ดูแลเว็บไซต์
- ช่องทางการติดต่อ
- Follow-up date
- วันส่งโพสต์
- วันที่เผยแพร่โพสต์
- การวาง link
การจัดระเบียบคือสิ่งจำเป็นอย่างมาก แม้หลายคนจะบอกว่าอาจไม่สำคัญเท่าไหร่ แต่อย่าลืมว่าทุกอย่างหากมีขั้นตอนที่ชัดเจนแล้ว การจะลงมือทำก็จะเป็นเรื่องง่ายและลื่นไหล
2. ค้นหาเว็บไซต์ที่จะทำ Guest Post – เริ่มต้นค้นหาเว็บไซต์ที่จะทำการฝาก Post ของคุณได้ โดยการค้นหาบน Search engine ด้วยการพิมพ์ตามตัวอย่าง ดังนี้
- keyword + “write for us”
- keyword + “Guest Blogging”
- keyword + “contributing writer”
- keyword + “guest article”
- keyword + “contribute to our site”
เมื่อคุณได้รายชื่อเว็บไซต์ที่เข้าข่าย ให้คุณทำการลิสต์รายชื่อทั้งหมดพร้อมตรวจสอบว่าเว็บไซต์นั้นเหมาะกับการทำ Guest Blogging ของเราหรือไม่ โดยมี Tools ที่แนะนำก็คือ Backlink checker ที่ช่วยเราดูว่า Backlink ที่จะฝากไปกับเว็บไซต์นั้นมีความคุ้มค่าแค่ไหน รวมไปถึงการตรวจสอบค่า Domain Authority (DA) (สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่(ลิงก์ไปที่บทความ : 42) ) ด้วยว่ามีคะแนนที่น่าสนใจมากพอให้เราตัดสินใจลง Content หรือไม่ อีกทั้งการประเมินคู่แข่งก็สามารถทำได้ผ่านกระบวนการนี้ เพื่อส่องดูว่าเว็บไซต์ที่เราสนใจนั้นมีคนทำ Guest Blogging ชนกับเราหรือเปล่า และตัวเว็บไซต์มี Feedback อย่างไรสำหรับคุณภาพการทำ Backlink
3. ติดต่อเว็บไซต์เป้าหมาย -“อย่าเขียนคำขอเสนอลงโพสต์เพื่อส่งให้ผู้ติดต่อทุกรายด้วยเนื้อหาเดียวกัน” ไม่ต่างจากการเขียน Email ที่เรามองว่าควรต้องใส่ใจและเขียนด้วยความรู้สึกที่อยากสื่อสารจริง ๆ ไม่ใช่จดหมายสำคัญรูปที่ copy กันมา ซึ่งจะสัมผัสถึงความจริงใจได้น้อย ที่สำคัญอย่าเร่งรัดพวกเขาให้ลง แต่ให้ใช้วิธีการเสนอว่าพวกเขาจะได้ประโยชน์อะไรจากการใช้ Content ของเรา
4. ปรับ Content ให้ลื่นไหล – เมื่อผ่านการอนุมัติแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนที่เราต้องทำการปรับปรุง Content ของเรา ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 กรณีคือ
- คุณมี content ของตัวเองอยู่แล้ว
- คุณมีเพียงแค่ไอเดียเท่านั้น
ในกรณีที่คุณมี content ของตัวเองอยู่แล้ว สิ่งที่ต้องทำก็คือการปรับสไตล์การเล่าเรื่องให้เหมาะกับเว็บไซต์ที่คุณจะโพสต์เพราะ Mood&Tone คือสิ่งสำคัญอย่างมากในการทำให้เว็บไซต์มีเนื้อหาไปในทิศทางเดียวกันอย่างแนบเนียน ดังนั้นการปรับในจุดนี้อาจสร้างความพึงพอใจให้กับทั้งสองฝ่าย
ในทางกลับกันหากคุณมีเพียงแค่ไอเดียคร่าว ๆ การพยายามลอกเลียนสไตล์การนำเสนอของเว็บไซต์ต่าง ๆ แล้วเรียบเรียงอีกครั้งผ่านไอเดียของคุณ ก็นับว่าเป็นสิ่งที่อาจทำให้พบเจอกับการนำเสนอรูปแบบใหม่ได้ดีเช่นกัน
5. สำรวจว่าเหมาะกับเราหรือเปล่า? – เมื่อโพสต์ของคุณได้เผยแพร่ออกไปแล้ว พยายามตรวจดูภาพรวมว่าโพสต์ของคุณไปในแนวทางเดียวกันกับเว็บไซต์หรือไม่ Position ของบทความหรือ Content เราจะเป็นอย่างไรเมื่อวางไว้บนเว็บไซต์นั้น ๆ
6. ติดตามผลลัพธ์ – ขั้นตอนการติดตามผลลัพธ์สามารถวัดได้จากหลายปัจจัยด้วยกันไม่ว่าจะเป็น ยอด Traffic, อันดับ SEO, จำนวน backlink ที่มีประสิทธิภาพ, หรือจะเป็นด้าน On-page ได้แก่ มิติการเพิ่มความน่าเชื่อถือ, สร้างการรับรู้แบรนด์, ให้ภาพจำที่ดี, การสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ติดตาม เป็นต้น การใช้เครื่องมือ Analytics เพื่อช่วยในการเก็บข้อมูลและเปรียบเทียบ Performance อาจทำให้คุณเจอกับ Solution บางอย่างที่ทำให้เว็บไซต์เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดก็เป็นได้
เราจะวัดได้อย่างไรว่า Guest Post มีคุณภาพ?
หัวใจสำคัญของการทำ Guest Blogging มักมีเนื้อหาที่ส่งมอบคุณค่าบางอย่างให้กับผู้อ่านได้ โดยไม่มุ่งเน้นเพียงแค่การโฆษณา (Advertisement) เพราะสิ่งนี้จะกระทบกับความรู้สึกโดยตรงต่อ User ถึงภาพลักษณ์ของเว็บไซต์ คงไม่มีใครอยากอ่านบทความของคุณจบพร้อมกับประโยคในหัวที่ว่า “สุดท้ายก็ขายนี่หว่า” ด้วยเหตุนี้การมุ่งเน้นไปที่การให้ประโยชน์กับ User โดยตรงจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ แม้สุดท้ายแล้วพวกเขาจะใช้เวลามากกว่าเพื่อกลับมาซื้อสินค้าของคุณ แต่ในระยะยาวสิ่งนี้จะดีกับคุณทั้งทางตรงและทางอ้อม
แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าการโฆษณาจะเป็นผู้ร้ายเสมอไป เนื่องจากบางครั้งเราอาจหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งตราบใดที่มันไม่รบกวนการมอบความรู้ที่ถูกต้อง หรือนำไปสู่การสร้างความรำคาญให้กับ User ก็มีสิ่งที่ถูกแทรกขึ้นมาได้เช่นกัน แต่ต้องบอกไว้เลยว่าคุณควรทำให้เนียนที่สุด!
เราทำอะไรได้อีกบ้างหลังเผยแพร่เนื้อหาของ Post ไปแล้ว?
หากคุณอยากพัฒนาบทความให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ปัจจัยเหล่านี้คือสิ่งที่คุณควรทำ
- ตอบสนองต่อความคิดเห็น – หากว่า Blog ของคุณเปิดให้มีการ Comment สิ่งที่ควรทำเลยก็คือ ตอบกลับความคิดเห็น (ในเชิงบวก) ให้ได้มากที่สุด เพราะการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดี จะช่วยให้คนอ่านรู้สึกใกล้ชิดและเลือกที่จะติดตามคุณได้ ทั้งยังดีต่อภาพลักษณ์ของเว็บไซต์อีกด้วย
- ติดตามโพสต์ของคุณบนโซเชียลมีเดีย – ปัจจุบันโซเชียลมีเดียได้รวบรวม Community ที่น่าสนใจไว้มากมาย ซึ่งคุณอาจจะได้ยอด Traffic จากที่นี่ก็เป็นได้ การพยายามตอบกลับความคิดเห็นจะช่วยให้ผู้ชมประทับใจในตัว Creator ได้มากขึ้น
- โปรโมตโพสต์บนช่องทางโซเชียลของคุณ – การใช้โซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์มีผลทำให้ดึงคนเข้าเว็บไซต์ได้มหาศาล อีกทั้งบนโซเชียลมีเดียยังเปิดให้คุณได้สร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้คนมากมายให้คุณได้หาคนที่มีความสนใจร่วมกัน ดังนั้นอย่าอายที่จะโพสต์อะไรให้คนติดตามถ้าหากมันสร้างประโยชน์ได้
- ทำ Content ของคุณให้เป็น Evergreen – การมี Realtime content เป็นสิ่งที่ดี แต่การมี Evergreen Content จะทำให้ Blog ของคุณรู้สึกสดใหม่ตลอดเวลา อีกทั้ง Algorithms ยังชอบ Content ประเภทนี้มากกว่า จึงทำให้การแข่งขันในระยะยาวคุณจะได้เปรียบเสมอ
Tips : ก้าวไปอีกระดับสำหรับการทำ Post ที่ดี
หากคุณคิดว่าการทำฝาก Post ของคุณไม่ได้ต่างจากคนอื่นแม้แต่น้อย ต่อไปนี้จะเป็นไอเดียที่คุณสามารถนำไปปรับใช้ได้ เพื่อให้คุณก้าวไปอีกระดับ
- จัด Layout ให้ง่ายไว้ก่อน
เรียบเรียงหน้าโพสต์หรือรูปถ่ายของคุณให้พร้อม พยายามนึกถึงอารมณ์ความรู้สึกของผู้ชมเวลาอ่านว่าพวกเขาอยากอ่านด้วยความรู้สึกแบบไหน ไม่จำเป็นต้องใส่ลูกเล่นมากมาย เพียงแค่คุณรู้ว่าจะทำอย่างไรให้สื่อสารกับผู้คนได้ง่าย ก็นับว่ามีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว - สร้างวิดีโอให้เนื้อหา
ถ้าคุณอยากยกระดับการสร้างเนื้อหา ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำวิดีโอคือสิ่งที่น่าลงทุน เพราะนอกจากมันจะสื่อสารกับผู้ชมได้ง่ายแล้ว ยังแสดงถึงความเป็นมืออาชีพให้กับเว็บไซต์ของคุณอีกด้วย (ในกรณีที่วิดีโอนั้นมีคุณภาพจริง) - คำนึงถึงแผนรองรับ SERP
เราไม่มีทางรู้ได้ว่าอะไรจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างสำหรับ SERP แต่เชื่อได้เลยว่าผู้ที่ติดตามข่าวสารเสมอจะปรับตัวได้ทัน ดังนั้นการกลับมาตรวจสอบโพสต์หรือ Content ของคุณใหม่เพื่อปรับให้สอดรับกับ SERP จึงเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจตลอดเวลา - มีเอกลักษณ์ อย่าใช้คำพูดซ้ำใคร
แม้จะมีแหล่งที่มาเดียวกันหรือจากปากผู้เชี่ยวชาญเหมือนกัน แต่ Creator ที่ดีจะแปลงคำพูดเหล่านั้นใหม่ เพื่อเรียบเรียงให้เป็นภาษาที่เข้าใจและสื่อสารได้มีเสน่ห์มากกว่า การเพิ่มรสชาติให้การนำเสนอไม่ใช่เรื่องที่ผิดตราบเท่าที่เนื้อหายังครบถ้วน กลับเป็นเรื่องดีเสียอีกที่สิ่งนี้จะสร้างความแตกต่างให้เราได้ - อย่าลืมใช้ Internal Links
การใช้ลิงก์เพื่อโยงไปยังเนื้อหาอื่นบนหน้าเว็บไซต์ คือสิ่งที่มีโอกาสช่วยเพิ่ม Traffic และกระตุ้นความสนใจสำหรับผู้อ่านไปด้วยในตัว อย่าลืมใช้เด็ดขาดเพราะสิ่งนี้เป็นอาวุธสำคัญที่จะบอกคุณได้ว่าเว็บไซต์หรือ Blog ของคุณมีอะไรดีรออยู่ - สื่อสารด้วย Infographic
Infographic คืออาวุธชั้นยอดอีกชิ้นสำหรับการนำเสนอ ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนเรามักมองภาพก่อนตัวอักษร ถ้าคุณอยากกระชากความสนใจคนอ่านตั้งแต่ครั้งแรก การใช้ Infographic เข้ามาช่วยคือสิ่งที่ได้ผลอย่างมากทีเดียว - ใช้ Quotes เน้นประเด็น
การใช้ Quotes สำคัญอย่างมากในการดึงความสนใจของผู้คนได้ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งบนสื่อโซเชียลมีเดีย หากคุณรู้จักนำมาประยุกต์ใช้ (ไม่จำกัดว่าจะเป็นคำถามหรือคำคม) จะสามารถเปิดโอกาสให้ผู้อ่านมีส่วนร่วมในการสร้าง Content ได้เช่นกัน
ความทรงพลังของ Guest Post ที่ทำให้เว็บไซต์ก้าวไปอีกขั้น
นอกจาก Guest Post จะให้ผลลัพธ์ที่ดีในด้านการเสนอ Content ที่จะก่อให้เกิดภาพการจดจำที่ดีสำหรับผู้เยี่ยมชม อีกทั้งการได้เก็บ Backlink ไปพร้อมกัน คือสิ่งที่ช่วยให้การทำ SEO สามารถเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรียกได้ว่าเป็นวิธีที่เหมาะกับการสร้างเว็บไซต์ให้น่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นเส้นทางเริ่มต้น ที่จะช่วยให้คุณหาพันธมิตรที่ดีได้ด้วย
สังเกตได้ว่าวิธีนี้เป็นทางเลือกที่กลุ่มธุรกิจ มักใช้ในการแข่งขันเพื่อดึงลูกค้า อีกทั้งยังมีต้นทุนสูง เนื่องมาจากการแข่งขันที่ดุเดือด อีกทั้งการเลือก Keyword เองก็ส่งผลโดยตรงกับการชนกันกับคู่แข่ง ซึ่งนับว่ามีความท้าทายอยู่ตลอดเวลา ทำให้การวัดผลต้องเทียบกันในระยะยาว ว่าใครจะสร้างความน่าเชื่อถือให้ได้มากกว่ากัน ทั้งในส่วนของ User และ Google bot ที่เข้ามาเก็บข้อมูล
ด้วยเหตุนี้แล้วการทำ Guest Blogging จึงเปรียบเสมือนกับสนามรบที่เราต้องสู้กับคนอื่นรวมถึงตัวเราเองตลอดเวลา ถึงแม้ไม่ใช่เส้นทางที่ง่าย แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็มีความคุ้มค่ารออยู่ หากคุณอยากยกระดับการทำเว็บไซต์ให้เหนือไปอีก การเลือกทำ Guest Blogging คือไอเดียที่ดีที่จะตอบโจทย์เรื่องนี้ให้กับคุณได้อย่างแน่นอน