ในโลกของการตลาดดิจิทัลที่รวดเร็วและเต็มไปด้วยข้อมูลมากมาย Pageview ได้กลายเป็นมากกว่าเพียงแค่ตัวเลขที่นับการเข้าชมเว็บไซต์ของเรา แต่มันเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความสนใจและความพึงพอใจของผู้ชม รวมถึงความสำเร็จของเนื้อหาที่เราสร้างขึ้น และที่สำคัญที่สุด มันเกือบจะกลายเป็นหัวใจสำคัญในการวางแผนกลยุทธ์เนื้อหาที่จะนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
จากการวิเคราะห์พฤติกรรมการเข้าชมหน้าเว็บ เราสามารถเรียนรู้ได้ว่าอะไรที่ทำให้พวกเขาคลิก หรืออะไรที่ทำให้พวกเขาอยู่ต่อในเว็บไซต์ของเรา และอะไรที่ทำให้พวกเขากลับมาเยี่ยมชมอีก นี่คือความสำคัญที่เมตริกต่าง ๆ จะแสดงให้เรารู้ เพื่อให้เราสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ให้ตรงใจกับผู้ใช้งานมากขึ้น
ทำความรู้จักความสำคัญของ Pageview ในยุคดิจิทัล
ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้จัดการลงเนื้อหา, นักเขียนบล็อก, หรือนักการตลาดที่ต้องการเพิ่มยอดขายออนไลน์ การเข้าใจถึงการใช้งาน Pageview ในการวางแผนกลยุทธ์เนื้อหาเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม โดยในบทความนี้ เราจะแนะนำคุณไปยังวิธีการวิเคราะห์และใช้ประโยชน์จาก Pageview เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเนื้อหาดิจิทัลของคุณ ซึ่งจะช่วยให้คุณไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการของผู้ชมได้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังนำพาไปสู่การใช้เทคนิคและกลยุทธ์ ที่จะทำให้การวางแผนเนื้อหาของคุณกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ความหมายของ Pageview และความเกี่ยวข้องในการวัดผล
Pageview หมายถึงจำนวนครั้งที่หน้าเว็บไซต์ของคุณถูกเข้าชม โดยเป็นการวัดความนิยมของเว็บไซต์ด้วยการนับจำนวนครั้งที่หน้าเว็บถูกโหลดโดยผู้ใช้ ซึ่งไม่คำนึงถึงระยะเวลาที่ผู้ใช้ได้ใช้เวลาอยู่บนหน้าเว็บนั้น ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้เปิดหน้าเว็บหนึ่งขึ้นมาแล้วปิดไปทันที หน้าเว็บนั้นก็จะนับเป็น 1 Pageview ในทันที
เรียกได้ว่า Pageview เป็นเมตริกพื้นฐานที่สำคัญสำหรับเว็บไซต์ต่าง ๆ เพราะสามารถบ่งบอกได้ว่าเว็บไซต์นั้นได้รับความนิยมมากน้อยแค่ไหน ซึ่งนักการตลาดมักใช้เพื่อวัดประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาดออนไลน์ได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซสามารถใช้ เมตริกนี้เพื่อวัดว่าผลิตภัณฑ์ใดได้รับความนิยมมากที่สุด หรือเว็บไซต์ข่าวสามารถใช้ เมตริกนี้ เพื่อวัดว่าหัวข้อข่าวใดได้รับความสนใจมากที่สุด โดยหากใช้เมตริกร่วมกันก็จะสามารถช่วยในการวิเคราะห์ที่ลึกขึ้น
Pageview ส่งผลกระทบอย่างไรกับการทำ SEO
แม้ในทางเทคนิค Pageview จะไม่ได้ถูกนับเป็นหนึ่งในปัจจัยตรงที่ Google ใช้ในการจัดอันดับผลการค้นหา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันไม่สำคัญเสียทีเดียว เพราะการที่เว็บไซต์ของเรามี Pageview สูงก็บ่งบอกถึงความนิยมและความสนใจที่ผู้คนมีต่อเนื้อหาของเรา นับเป็นสัญญาณที่ดีว่าเราอาจจะทำอะไรถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการให้ในสิ่งที่ผู้คนกำลังหา หรือตอบสนองความต้องการของพวกเขา กระทั่งเราได้จูงใจพวกเขาได้ดีพอที่อยากเข้ามาดูเนื้อหาของเรา
นอกจากนี้ Pageview ที่สูงยังสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการได้รับ backlinks และการแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่ง backlinks ที่มีคุณภาพก็เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักของ Google ในการประเมินความน่าเชื่อถือและความเกี่ยวข้องของเว็บไซต์ ดังนั้น Pageview ที่มากสามารถนำไปสู่การสร้าง backlinks และการแชร์โซเชียลมีเดียที่มากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถช่วยเพิ่มอันดับของเราในผลการค้นหา
แม้การวัดค่าดังกล่าวจะไม่ได้ตัดสินอันดับ SEO โดยตรง แต่เป็นสัญญาณที่ช่วยเราปรับปรุงและตรวจสอบกลยุทธ์ SEO ของเรา เพราะมันบอกได้ว่าเราอยู่ในทิศทางที่ถูกต้องหรือไม่ และต้องปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่างเพื่อให้เนื้อหาของเราสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้งานและมาตรฐานของ search engine
วิธีปรับปรุงกลยุทธ์เนื้อหาด้วยข้อมูลจาก Pageview
การปรับปรุงกลยุทธ์เนื้อหาด้วยข้อมูลจาก Pageview เป็นกระบวนการที่ทำให้เราเข้าใจผู้ชมของเราได้ลึกซึ้งขึ้นและช่วยให้เราสามารถสร้างเนื้อหาที่มีความเกี่ยวข้องและมีประสิทธิผลมากขึ้น แต่เมื่อมาถึงตรงนี้เราต้องบอกก่อนว่าลำพังแล้วการอ้างอิงจากเมตริกนี้เพียงอย่างเดียวอาจไม่ครอบคลุมเพราะคุณอาจต้องพึ่งพาเมตริกตัวอื่นด้วย ไม่ว่าจะเป็น Bounce Rate(แนบบทความที่ 264), Time on Page, Sessions และอื่น ๆ ตามความเหมาะสม ถึงอย่างไรก็ตาม นี่ยังคงเป็นวิธีที่คุณสามารถที่จะเลือกใช้ในการปรับปรุงได้เมื่อวิเคราะห์จาก Pageview โดยตรง
- วิเคราะห์เนื้อหาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
วิธีที่ได้ผลอย่างชัดเจนเป็นอันดับต้น ๆ ก็คือการกลับมาดูว่าหน้าเว็บไหนที่มี Pageview สูงที่สุด และวิเคราะห์ดูว่าเนื้อหาประเภทใดที่ได้รับความนิยม อาจรวมถึงการวิเคราะห์แนวโน้มเนื้อหา, สไตล์การเขียน, ภาพประกอบ, หรือแม้แต่เวลาที่เนื้อหานั้นถูกเผยแพร่ ซึ่งวิธีนี้จะทำได้ดีหากคุณได้เปรียบเทียบคุณภาพของเนื้อหาที่ดีและแย่เพื่อที่จะได้รู้สาเหตุว่าอะไรคือปัจจัยที่ส่งผลให้งานทั้งสองชิ้นมีความต่างกัน
- ทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้ชม
ใช้ข้อมูลเช่น Time on Page, Bounce Rate, และ User Navigation Paths เพื่อดูว่าผู้ชมมีปฏิสัมพันธ์กับเนื้อหาอย่างไร จะทำให้คุณรู้ว่าผู้ใช้งานสนใจอะไรเป็นพิเศษรวมถึงการได้รู้ว่าพวกเขาอยากที่จะรู้อะไรกันแน่? นี่คือสำคัญที่เมื่อคุณรู้ถึงความต้องการของลูกค้า คุณจะสามารถปรับเนื้อหาให้เข้ากับสิ่งที่พวกเขาชอบได้
- การปรับปรุงคุณภาพเนื้อหา
หากเนื้อหาบางชิ้นมี Pageview ต่ำ ด้วยเหตุนี้คุณอาจจะหาสาเหตุเพิ่มเติมได้ว่าเป็นเพราะอะไร อาจจำเป็นต้องปรับปรุงคุณภาพของเนื้อหาหรือทำให้มันมีความเกี่ยวข้องกับผู้ชมมากขึ้นในกระแสช่วงนั้นด้วยหรือไม่ หรือในบางครั้งคุณอาจใช้เมตริกตัวมาดูเพิ่มเติมว่าต้องปรับตรงไหน ไม่แน่ว่าปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เจออาจพาไปสู่คำตอบที่ถูกต้องได้ในการปรับเนื้อหาของคุณให้ถูกทางมากขึ้น
- การทดลองกับเนื้อหาใหม่ ๆ
ใช้ข้อมูลจาก Pageview เพื่อทดสอบเนื้อหาใหม่ ๆ เป็นเรื่องที่ค่อนข้างท้าทายโดยอาจเริ่มจากการสร้างเนื้อหาที่คล้ายกับชิ้นงานที่มีคุณภาพแล้วดูว่าผลลัพธ์เป็นอย่างไร วิธีการเสนอแบบไหนได้ผลกับกลุ่มเป้าหมาย พยายามลองหาทางที่ใช่ด้วยการทดสอบอย่างละเอียด
- การปรับปรุง SEO
Pageview ที่ไม่ดีอาจสะท้อนถึงการทำ SEO ได้ส่วนหนึ่งเช่นกัน แม้จะไม่ใช่ประเด็นหลักทั้งหมดแต่บอกได้เลยว่าการปรับปรุงปัจจัย SEO เช่น Keyword, Internal link, หรือ Meta description จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้เนื้อหาของคุณถูกค้นหาได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน
- การใช้ CTA (Call to Action)
สังเกตการมีส่วนร่วมและการแปลงที่เกิดขึ้นจากหน้าที่มี Pageview สูงมักมีการนำเสนอ CTA (Call to Action) ที่ชัดเจนและข้อเสนอที่น่าสนใจเพื่อเพิ่ม Conversion rate ด้วยเหตุนี้การพยายามสร้างเนื้อหาที่เหมาะสมและตบท้ายด้วยการบอกถึงสิ่งที่เราอยากสื่อหรืออยากให้ผู้อ่านได้ทำ จะเป็นตัวช่วยกระตุ้นให้ผู้อ่านสามารถทำตามเป้าหมายของเราได้มากยิ่งขึ้น
สรุป ความสำคัญของ Pageview ค่าพื้นฐานที่ช่วยให้คุณปรับปรุงเว็บไซต์ได้ดีขึ้น
Pageview นั้นก็เสมือนภาพสะท้อนของเว็บไซต์ เพราะมันเป็นตัวเลขพื้นฐานที่บ่งบอกถึงจำนวนครั้งที่ผู้คนเปิดดูหน้าเว็บของเรา ไม่ว่าจะเพื่อค้นหาข้อมูล อ่านบทความ หรือเพียงแค่เข้ามาเพราะความอยากรู้อยากเห็น แต่ละ Pageview ที่เราได้รับนั้นก็เหมือนกับสิ่งที่บ่งบอกถึงคุณภาพและความน่าสนใจของเนื้อหาที่เรามีให้ โดยเราสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อวิเคราะห์ว่าเนื้อหาประเภทใดที่ได้รับความสนใจมากที่สุด และหน้าไหนที่อาจจะต้องปรับปรุง ช่วยให้เราเข้าใจว่าเราควรเพิ่มเนื้อหาประเภทใดเพื่อดึงดูดผู้ชมให้กลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์อีก
กล่าวได้เลยว่าค่าดังกล่าวนี้ มีความเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์ข้อมูลเส้นทางการเข้าถึงสำคัญของเว็บไซต์ที่สามารถช่วยเราปรับปรุง UX (User Experience) และ UI (User Interface) เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเนื้อหาที่พวกเขาต้องการได้อย่างง่ายดายและราบรื่นอีกด้วย พูดได้เลยว่าค่าเมตริกที่มีความสำคัญเช่นนี้จะเป็นกุญแจที่ทำให้นักการตลาดดิจิทัลสามารถที่จะมองเห็นถึงภาพรวมที่จะต่อยอดเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
