สำหรับผู้ที่เข้ามาอ่านบทความของเราไหนใครเป็นคนที่ชอบดู แม่ค้า หรือ พ่อค้า ไลฟ์สดขายของกันบ้าง เราเชื่อว่าคนสมัยใหม่ส่วนใหญ่ต่างชื่นชอบในการรับชมไลฟ์สดขายของทั้งนั้น เพราะมันสนุก เฮฮา โดยเฉพาะจังหวะที่แม่ค้าตบมุกขายของกับลูกค้าในไลฟ์ มันเรียกเรตติ้งให้คนดูอย่างเราได้จริง ๆ ซึ่งความเอนเตอร์เทนผ่านการรับชมการขายสินค้านี้แหละ เราเรียกว่า Shoppertainment มันเป็นเทรนด์สมัยใหม่ ที่เอาความบันเทิงมาปรับใช้กับการขายสินค้า ทำให้ผู้บริโภคอย่างเรารู้สึกสนุกกับการใช้จ่าย และง่ายต่อการเปย์มันนี่ โดยบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับโลกของการค้าขายด้วยความบันเทิงมากขึ้น
Shoppertainment คืออะไร แล้วทำไมมันถึงได้รับความนิยมในปัจจุบัน
Shoppertainment มันคือลูกผสมระหว่างคำว่า Shopping + Entertainment หรือแปลได้ว่า การสร้างความบันเทิงผ่านการช็อปปิ้งสินค้า แล้วสาเหตุที่ทำให้ Shoppertainment ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพราะว่าผู้บริโภคสมัยใหม่เขาเบื่อกับการขายตรงแบบเดิม ๆ เนื่องจากมองว่าวิธีนี้มันคือการยัดเยียดสินค้ามากเกินไป อารมณ์คล้ายกับการที่คุณดูละคร แล้วพอจบตอนละครก็มีโฆษณาเข้ามาแทรก คุณก็ไม่ได้อยากรับชมโฆษณาขายของหรอก คุณก็เลือกไปชมละครที่ช่องอื่นแทน ผู้บริโภคสมัยใหม่มองว่าการโฆษณาขายของแบบตรง มันคือใช้มุกแบบเดิม ๆ นั้นคือ การเลือกพรีเซนเตอร์ที่หน้าตาดี มาบอกเล่าคุณสมบัติของสินค้า ทำให้ผู้บริโภครู้สึกเบื่อ เนื่องจากเขาไม่มีความสนุกในการรับชมนั่นเอง
โดยกระแส Shoppertainment ได้รับความนิยมในไทยช่วงแรก ๆ คือ กระแสไลฟ์สดขายสินค้าของคุณพิมรี่พาย ด้วยสไตล์การขายของที่มีฝีปากจัดจ้าน ผสมความตลก และภาพลักษณ์การแต่งกายภายนอกที่มีความเปรี้ยว มั่นใจ ทำให้กระแสการไลฟ์สดขายสินค้าของคุณพิมรี่พาย โด่งดังอย่างมากเมื่อ 6 ปีก่อน จากนั้นเลยทำให้เกิดกระแสการไลฟ์สดขายสินค้าของบุคคลอื่น ๆ ตามมาภายหลัง ผู้บริโภคที่เข้ามาชมไลฟ์สดขายของเขาไม่ได้เข้ามาชมเพื่อบริโภคความบันเทิงอย่างเดียวเท่านั้น แต่เขายังให้ความสนใจในตัวสินค้าที่ถูกพรีเซ้นท์ผ่านการไลฟ์สดอีกด้วย และยิ่งถ้าบุคคลที่ได้ไลฟ์สดมีการสาธิตการใช้สินค้า ก็จะยิ่งทำให้ได้รับความสนใจจากผู้ที่เข้ามาชม เนื่องจากผู้บริโภคในปัจจุบันได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับคุณภาพของสินค้าเป็นหลัก ถ้ามีการสาธิตว่าสินค้าที่ขายมีคุณภาพก็จะยิ่งได้รับความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคอีกด้วยโอกาสเติบโตของ Shoppertainment ในอนาคต
ปัจจุบันเราล้วนปฏิเสธไม่ได้ว่าแบรนด์สินค้าทั้งแบรนด์เล็ก และแบรนด์ใหญ่ ต่างแข่งขันกันไลฟ์สดขายของในแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นว่าเล่น บางแบรนด์ถึงขนาดยอมจ้างดาราด้วยค่าตัวหลายแสนเพื่อให้ดารามานั่งไลฟ์สดขายสินค้าร่วมกับเจ้าของแบรนด์เลยทีเดียว ซึ่งกระแสของการค้าขายด้วยความบันเทิง มีแนวโน้มที่จะเติบโตในอนาคต เนื่องจากพฤติกรรมของชาว Gen Y (Generation Y) และชาว Gen Z (Generation Z) จะชอบซื้อของผ่านการดูไลฟ์สดเป็นหลัก หรือ คลิปพรีเซ้นต์สินค้าชนิดให้ความบันเทิงก่อนการขาย โดยจะเน้นให้ความสำคัญผ่านครีเอทเตอร์วิดีโอ หรือ ผู้ไลฟ์ขายสินค้า ถ้าผู้บริโภคได้รับความบันเทิงที่พึงพอใจย่อมทำให้เขาสนใจซื้อสินค้าตามมา นอกจากนี้กระแส การค้าขายด้วยความบันเทิง มันก็ให้ผลดีกับทั้งสองฝ่าย เพราะผู้ขายสินค้าก็สามารถขายของได้ และ ผู้ซื้อสินค้าก็ได้รับความบันเทิง เรียกว่า Win – Win ทั้งคู่
จากการสำรวจของ Boston Consulting Group (BCG) ได้มีการคาดการณ์ว่า ตลาด Shoppertainment ในเอเชีย-แปซิฟิกจะเติบโตถึง 63% ต่อปี ส่วนในประเทศไทยมีโอกาสเติบโตสูงถึง 54% และจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจาก 3.4 พันล้านเหรียญ เป็น 12 พันล้านเหรียญสหรัฐ (4.2 แสนล้านบาท) ภายในปี 2025 ดังนั้นจะเห็นว่าการค้าขายด้วยความบันเทิงถือว่าเป็นเทรนด์การตลาดที่กำลังมาแรง และ เป็นเทรนด์ที่เจ้าของธุรกิจทั้งรายใหญ่ รวมถึงรายเล็ก ไม่ควรพลาดในการเข้ามาแย่งชิงพื้นที่สำหรับทำการตลาด
5 ข้อต้องรู้ก่อนที่คุณจะลงมาเล่นเกมในสนาม Shoppertainment
สำหรับผู้ที่อ่านบทความของเรามาถึงตรงนี้ เราเชื่อแหละ ว่าต้องมีผู้ที่สนใจอยากลองมาลงสนามขายสินค้าผ่านรูปแบบ Shoppertainment ดูบ้าง เพราะโอกาสและการเติบโตมันสามารถไปได้อีกไกลในอนาคต หัวข้อนี้เราจะมาแนะนำคุณให้รู้จักกับ 5 ข้อต้องรู้เกี่ยวกับการสร้างคอนเทนต์ ให้เติบโตในสนามการค้าขายด้วยความบันเทิง เพื่อที่คุณจะได้ลงสนามได้อย่างแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
- ข้อแนะนำที่ 1 คุณต้องตอบใจสังคมให้ได้ว่าคนในสังคมชื่นชอบ หรือ ให้ความสนใจสินค้าอะไรเป็นพิเศษ แล้วคุณก็นำสินค้าชนิดนั้นนำมาขายรูปแบบการค้าขายด้วยความบันเทิง โดยคุณสามารถเข้าไปอ่านบทความเกี่ยวกับการหาสินค้ามาเพิ่มยอดขายในพื้นที่ออนไลน์ได้จากบทความนี้ (มารู้จักกับ 10 สินค้าขายดี)
- ข้อแนะนำที่ 2 คุณควรวางคาแรคเตอร์ หรือ หาจุดเด่นในการสร้างความเอนเตอร์เทน ให้กับผู้คนที่ชมคอนเทนต์ของคุณ เช่น การหาหน้าม้ามาร่วมไลฟ์สด, การดึงคนดังมาร่วมไลฟ์สด, การใส่ธีมการแต่งกายในการไลฟ์สด เป็นต้น
- ข้อแนะนำที่ 3 คุณต้องขยันสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ที่เข้ามาชม เช่น ขยันตอบกลับคอมเม้นต์กับผู้ที่เข้ามาคอมเมนต์, ขยันทักทายคนดูก่อนเริ่มไลฟ์สด , ขยันอัปเดตคอนเทนต์เพื่อสร้างความผูกพันระหว่างคุณกับผู้ชม เป็นต้น
- ข้อแนะนำที่ 4 พยายามสร้างโปรโมชั่น เพื่อกระตุ้นให้ผู้ชมหันมาสนใจคอนเทนต์ของคุณ
- ข้อแนะนำที่ 5 พยายามสร้างกระแสให้กับคอนเทนต์ของคุณตลอดเวลา เพราะท่ามกลางสงครามสมรภูมิ การค้าขายด้วยความบันเทิงแบบนี้ การที่คอนเทนต์ของคุณมีกระแสมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้สินค้าของคุณขายได้จำนวนมากเท่านั้น ตัวอย่าง กรณีกล่องสุ่มพิมรี่พาย เป็นต้น
กลยุทธ์สร้าง Shoppertianment ควบคู่กับเทศกาล Mega Sales
คุณเคยเป็นเหมือนกันไหมที่ล้มละลายทุกครั้งเมื่อถึงเทศกาล Maga Sales หรือที่เรารู้จักกันในนามของวันดับเบิ้ลเดย์ 6.6 ( 6 มิถุนายน), วันดับเบิ้ลเดย์ 11.11 ( 11 พฤศจิกายน) ซึ่งเป็นเทศกาลที่แบรนด์สินค้าส่วนใหญ่พร้อมใจกันลดราคา กระหน่ำโปรโมชั่น เพื่อเพิ่มยอดขายสินค้าของตัวเองในเทศกาล โดยสินค้าที่ขายดี ช่วง Mega Sales ได้แก่
อันดับ 1 กลุ่มสินค้าที่เกี่ยวกับความงาม
อันดับ 2 กลุ่มสินค้าแฟชั่น
อันดับ 3 กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า
อันดับ 4 กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม
อันดับ 5 กลุ่มอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
ซึ่งการใช้กลยุทธ์ Shoppertianment ในเทศกาล Mega Sales สิ่งที่คุณควรจะเตรียมตัวนั้นคือ
- คุณต้องสร้างโปรโมชั่นให้ตรงกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อที่จะได้ประหยัดงบประมาณในการโฆษณา เนื่องจากก่อนถึงเทศกาล Mega Sales ผู้บริโภคกว่า 68% จะทำการศึกษาเพื่อเปรียบเทียบราคาสินค้า ผู้บริโภค 53% จะเริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ เช่น รีวิวสินค้า, การคอมเม้นท์สินค้าจากผู้ใช้งานอื่น เป็นต้น และ ผู้บริโภค 51 % จะเริ่มหาข้อมูลของสินค้า เช่น สรรพคุณ,การใช้งาน เป็นต้น ดังนั้นจะเห็นว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ล้วนให้ความใส่ใจกับราคาของสินค้ามากเป็นพิเศษ ฉะนั้นถ้าคุณสามารถกำหนดโปรโมชั่น ที่ตอบโจทย์ Knock ทุกความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ ย่อมทำให้เทศกาล Mega Sales สินค้าของคุณสามารถขายสู่กลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วรวมถึงขายได้ในปริมาณที่มากขึ้น
- สร้างประสบการณ์ที่ดีในการซื้อของให้กับผู้บริโภค ประสบการณ์ที่ดีไม่เป็นเพียงแค่การให้ความบันเทิงอย่างเดียวเท่านั้น แต่อาจจะเป็นการมอบของแถม หรือ มอบสิทธิประโยชน์ในการซื้อของรอบถัดไป เพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกประทับใจในการเข้ามาซื้อสินค้าของคุณ
- สร้างแคมเปญร่วมสนุกในเทศกาล Mega Sales ผ่านวิธีทำคอนเทนต์รูปแบบต่างๆ , การทำแฮชแท็ก Challenge เช่น การให้ผู้บริโภคลองบอกเหตุผลว่าเพราะเหตุใดจึงชื่นชอบสินค้าของคุณ, การถ่ายรูปคู่กับหน้าจอไลฟ์สดในวัน Mega Sales เพื่อชิงของรางวัล เป็นต้น ซึ่งการสร้างแคมเปญกิจกรรมนอกจากจะเป็นการโปรโมทแบรนด์สินค้าแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นยอดขายให้กับสินค้าได้อีกด้วย
นอกจากนี้ประโยชน์ของการจัด Shoppertianment ควบคู่กับเทศกาล Mega Sales มันยังสร้างให้เกิดความสุขทั้งหมด 3 ด้านจนกลายเป็นวัฒนธรรมของผู้คน ได้แก่
- Joy of Discovery ความสุขที่เกิดจากการค้นพบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ
- Joy of Entertainment ความสุขที่ได้จากความบันเทิง
- Joy of Community Commerce ความสุขที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนนักช็อป
ถ้าไม่เชื่อคุณลองสังเกตในโซเชียลมีเดียก็ได้ ที่เมื่อถึงเทศกาล Mega Sales ทีไร เพื่อนของคุณจำนวนมากมักจะโพสต์สินค้าที่ซื้อมาจากเทศกาลนี้ลงบนโซเชียลมีเดียเสมอ แม้มันจะทำให้เขาหมดเงินไปเยอะก็ตาม แต่มันก็ทำให้เขามีความสุขเมื่อได้ซื้อ
สรุป ความเข้าใจของกระแส Shoppertainment ที่เข้ามาเอนเตอร์เทนให้คุณสนุกไปกับการช็อป
Shoppertainment คือ วัฒนธรรมการซื้อสินค้าโดยพิจารณาจากความบันเทิงในการรับชมสินค้าเป็นหลัก เนื่องจากผู้บริโภคสมัยใหม่ต่างเบื่อหน่ายกับการขายตรงแบบเดิม ๆ ฉะนั้นถ้าเจ้าของธุรกิจสามารถขายความบันเทิงในคอนเทนต์ขายสินค้าได้โดนใจผู้บริโภค ย่อมทำให้ผู้บริโภคเกิดความสนุกและตัดสินใจซื้อสินค้าตามมาภายหลัง อนาคตตลาด การค้าขายด้วยความบันเทิงจะมีโอกาสเติบโตขึ้นอีก โดยเฉพาะประเทศไทยมีโอกาสเติบโตสูงถึง 54% ถ้าคุณสนใจอยากลงสนามมาสร้างคอนเทนต์ขายของแบบการค้าขายด้วยความบันเทิง สิ่งที่คุณควรเตรียมความพร้อม คือ
1. การหาสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค
2.หาจุดเด่นในการสร้างคอนเทนต์ให้กับตัวเอง
3.ขยันสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ที่เข้ามาชม
4.สร้างโปรโมชั่นให้กับสินค้า
5.สร้างกระแสให้กับคอนเทนต์ของคุณตลอดเวลา
นอกจากนี้คุณควรใช้กลยุทธ์การค้าขายด้วยความบันเทิงควบคู่กับเทศกาล Mega Sales เพื่อผลักดันให้ยอดขายสินค้าของคุณได้เติบโตมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ก็คือ โลกของการขายแบบใหม่ที่เราพาคุณมาเห็นให้มากขึ้น และเราก็หวังว่าคุณจะรับเอนเตอร์เทนเมนท์จากคอนเทนต์ของเรา
